เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมนายตำรวจในสังกัด ร่วมกันแถลงผลจับกุม 17 ผู้ต้องหา ขบวนการทุจริตสอบแข่งขันบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจกลุ่มงานอำนวยการและสนับสนุน ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “เป็นอั้งยี่ และร่วมกันเอาไปเสีย ทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารใดของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน” โดยมี นายดาชัย เอกปฐพี อายุ 52 ปี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จ.ลำปาง และนายอดิศักดิ์ สมบัติคำ หรือ จ่าตา อายุ 49 ปี ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.มหาสารคาม รวมอยู่ด้วย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้อนุมัติและมอบหมายให้ บช.ศ. จัดสอบแข่งขันบุคคลภายนอก ผู้มีวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่า เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวนกลุ่มงานอำนวยการ และสนับสนุน 725 อัตรา กำหนดสอบข้อเขียน วันที่ 27 พ.ย. 2565 ใช้ข้อสอบ 4 ชุด แบบปรนัย 4 ตัวเลือก 150 ข้อ 150 คะแนน แต่ภายหลังการสอบเสร็จสิ้นปรากฏข่าว พบการทุจริตโดยมีการเผยแพร่โพยเฉลยคำตอบผ่านทางไลน์และเฟซบุ๊ก

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ทาง สตช. จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง พบผู้สอบผ่าน 1,160 คน มีกระดาษคำตอบที่น่าสงสัย 141 คน ไม่มีร่องรอยการขีดเขียน หรือทดเลขในกระดาษปัญหาข้อสอบ แต่มีร่องรอยการฝนกระดาษคำตอบแบบลอกโพย ซึ่งพบว่าเป็นโพยเฉลยจริง กระทั่งมีผู้ยอมรับว่าทุจริตการสอบจริง พร้อมขอสละสิทธิ 163 คน ส่วนใหญ่ให้การว่ามีกลุ่มบุคคลติดต่อ เสนอขายโพยเฉลยข้อสอบให้ทั้งโพยเฉลยแบบตัวเลข และโพยเฉลยแบบให้จำข้อความคำตอบสั้นๆ ผู้เข้าสอบมีการโอนเงินค่าซื้อโพยเฉลยข้อสอบให้ผู้ติดต่อขายและ นายหน้าเป็นทอดๆ รายละ 2-6 แสนบาท ทาง พล.ต.ต.ประเสริฐ ศิริพรรณาภิรัตน์ รอง ผบช.ศ./ประธานอนุกรรมการสอบข้อเขียน และ พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รอง ผบก.อก.บชภ.6 และกรรมการและเลขานุการ จึงเข้าแจ้งความกับ บก.ป.

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวว่า จากการสอบสวนพบ กลุ่มขบวนการทุจริตเสนอขายโพยข้อสอบ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยมีกลุ่มนายหน้า ทำหน้าที่ติดต่อขายโพยข้อสอบ, กลุ่มผู้เฉลยข้อสอบ ทำหน้าที่เฉลยข้อสอบ, กลุ่มที่นำข้อสอบไปมอบให้ทีมเฉลย ทั้งนี้ ผู้ซื้อโพยเฉลยยืนยันว่า เริ่มรับโพยเฉลยข้อสอบ มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2565 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวปัญหาข้อสอบถูกจัดพิมพ์ที่โรงพิมพ์เสร็จเรียบร้อย รอส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์สอบมารับเอาไป เพื่อนำไปใช้ในการสอบในวันรุ่งขึ้น เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานก่อนออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสิ้น 18 ราย ก่อนลงพื้นตามจับกุมผู้ต้องหาในพื้นที่ 9 จังหวัด กรุงเทพฯ, มหาสารคาม, กาฬสินธุ์, ศรีสะเกษ, พะเยา, ลำปาง, ประจวบคีรีขันธ์, พัทลุง, นราธิวาส สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ทั้งสิ้น 17 รายดังกล่าว

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนพบว่า หนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหานั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศดาบตำรวจเกี่ยวข้องด้วย แต่เป็นแค่สมาชิก ไม่ใช่ตัวการใหญ่ ซึ่งตนสั่งให้เร่งติดตามจับกุมตัวแล้ว รวมทั้งให้เร่งสอบสวนขยายผลไปยังหัวหน้าขบวนการที่เหนือไปจากผู้ต้องหากลุ่มนี้ด้วย ส่วนกรณีที่มีผู้ต้องหาเป็นผู้จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.นั้น ตนขอยืนยันไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะเราดำเนินการไปตามหลักฐาน ซึ่งนอกจากทุจริตการสอบตำรวจ ยังพบด้วยว่ากลุ่มผู้ต้องหายังเกี่ยวข้องกับการสอบเข้ารับราชการหน่วยอื่นด้วย

ด้าน พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า หลังจากนี้ก็จะมีมาตรการการสอบที่เข้มงวดมากขึ้น โดยจะให้ทาง บช.ก. ส่งกำลังเข้ามาสนับสนุนอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ก็จะลดจำนวนสนามสอบลง เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม เพิ่มความเข้มงวดการรั่วไหลของข้อสอบ ทั้งพิมพ์และการจัดส่งไปยังสนามสอบ ส่วนกรณีผู้ที่สละสิทธิเพราะเกี่ยวข้องกับทุจริต จะถูกขึ้นบัญชีเอาไว้ เพื่อไม่ให้เข้าสมัครสอบรับราชการตำรวจได้อีก ร่วมทั้งจะส่งประวัติไปยังหน่วยงานราชการอื่น ที่เกี่ยวข้องกับการสอบอีกด้วย.