เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ศาลปกครองสูงสุดออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคดีที่ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. นายพัฒ ตั้งเบญจผล ผู้แทนพรรคประชาธิปัตย์จาก จ.สุโขทัย นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์ ผู้มีสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ใน จ.สุโขทัย นายพัฒนา สัพโส ผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.สกลนคร ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรณีขอให้เพิกถอนประกาศ กกต.เรื่องแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่ประกอบเป็นเขตเลือกตั้งลงวันที่ 16 มี.ค. 66 โดยการไต่สวนในของ กกต. นายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการการเลือกตั้ง นำทีมผู้บริหารสำนักงานเดินทางมาชี้แจงด้วยตนเอง
ภายหลังการไต่สวนซึ่งใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง นายอรรถวิชช์ เปิดเผยว่า ในการไต่สวนวันนี้ ตนได้ให้ข้อมูลต่อศาลไปว่า การเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การคิดคำนวณ ส.ส.แบ่งเขตเลือกตั้งใน กทม. 33 เขตเลือกตั้ง ที่ไม่เหมือนเดิม 29 เขตเลือกตั้ง เป็นความตั้งใจของ กกต. ถือเป็นการทำลายระบบตัวแทน ทำให้ความผูกพันระหว่าง ผู้แทนราษฎรกับประชาชนในพื้นที่ห่างออกไป เป็นกลจักรสำคัญของระบอบประชาธิปไตย แต่ กกต.ยืนหลักเอาผลต่างของจำนวนราษฎรในแต่ละเขตเลือกตั้ง ไม่ควรเกินร้อยละ 10 ของจำนวนเฉลี่ย ต่อจำนวน ส.ส. 1 คน เป็นตัวตั้ง และเกณฑ์ 10% จะมีมานานแล้ว แต่เพิ่งใช้เป็นครั้งแรกกับ กทม. ซึ่งที่น่าแปลกใจ คือ ในการชี้แจงของ กกต. ในวันนี้ พบว่า กกต.ไม่ได้ใช้เกณฑ์ไม่เกิน 10% แต่ใช้เกณฑ์ 5% ด้วยซ้ำ
เกณฑ์ดังกล่าวทำให้เขตเลือกตั้งเดิมทั้งหมดถูกสลายไป ซึ่งเป็นเป้าหมายของ กกต. จากนี้ต้องวัดใจว่า ศาลปกครองจะมีคำวินิจฉัยตาม กกต.หรือไม่ เป็นอำนาจของ กกต.หรือไม่ แต่สำหรับพรรคการเมือง พวกเรามองว่านี่ไม่ใช่วิถีทางที่จะทำให้ประชาธิปไตยเข้มแข็ง เพราะเป็นการทำลายระบบตัวแทน อย่างไรก็ตาม หากศาลปกครองมีคำวินิจฉัยให้มีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ จะไม่มีผลกระทบต่อกำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. 66 เพียงแต่มีผลต่อการทำไพรมารีโหวตของแต่ละพรรคการเมือง และการรับสมัครการเลือกตั้ง ซึ่งสามรถเลื่อนไปวันที่ 14-18 เม.ย. 66 และขยายวันเลือกตั้งล่วงหน้าออกไป จะทำให้ไทม์ไลน์ขยับแต่วันเลือกตั้งไม่ขยับ
“เกณฑ์ไม่เกิน 10% ระหว่างราษฎรกับ ส.ส. 1 คน เกณฑ์นี้ กกต.เพิ่งใช้ครั้งแรก ในการแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม. เมื่อก่อนใช้กับการปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดอื่นๆ ในอดีต แต่ไม่ใช้ใน กทม. อย่างการเลือกตั้ง ส.ก.ที่ผ่านมา แต่ กกต.เลือกใช้ในครั้งนี้ เพื่อสลายเขตเลือกตั้งเดิม มีเพียง 4 เขตเท่านั้นที่เหมือนเดิม ถ้าหาก กกต.มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดดำเนินการหั่นเขต ก็แปลว่า การเลือกตั้งในครั้งต่อไป เพียง กกต.แก้ระเบียบขับตัวเลขเปอร์เซ็นต์ก็จะสลายเขตทันที” นายอรรถวิชช์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นการไต่สวนในคดีที่เหลืออีก 3 คดี คือ การร้องคัดค้านเขตเลือกตั้งที่ จ.สุโขทัย และสกลนคร ซึ่งมีรายงานว่า ศาลปกครองสูงสุดได้นัดนั่งพิจารณาคดีครั้งแรก ในวันที่ 4 เม.ย. 66 และนัดอ่านคำพิพากษาทั้ง 4 คดีในวันที่ 7 เม.ย. 66 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรับสมัคร ส.ส.ทั้งสองแบบ.