เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 30 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ จะไม่เดินทางเข้าที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เพราะพูดคุยกันแล้ว เป็นเรื่องของพรรคที่ดำเนินการภายใน ก็ได้คุยกันภายในพรรคและหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ซึ่งบางครั้งทั้งหมดเป็นการประสานและหารือกับตนแล้ว และดำเนินการตามนั้น ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ามีปัญหา เขาก็จะสอบถามมา เพราะตนมีงานที่ต้องทำตรงนี้ด้วย ฉะนั้นอะไรก็ต้องแบ่งให้ถูก เพราะมันลาราชการลำบาก งานเยอะ

เมื่อถามว่า วันที่ 3-4 เม.ย. เป็นวันรับสมัคร ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายกฯ จะไปให้กำลังใจผู้สมัครพรรค รทสช. หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คิดว่าน่าจะไป ส่วนจะไปทั้ง 2 วันเลยใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ดูก่อน ตรงไหนมันควรจะไปก็ไป แต่ถ้าไปก็ต้องลาราชการ และต้องดูทีละขั้นว่า จะต้องขึ้นรถแห่หรือไม่ ตอนนี้ไปให้กำลังใจเขาก่อน และจะดูว่าเขาจะไปไหนอย่างไร และมันควรไม่ควรอย่างไรก็ต้องดูกัน ถ้ามาถามล็อกแบบนี้มันตอบไม่ได้ การตัดสินใจขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความจำเป็น รวมถึงการกำหนดเวลาอะไรต่างๆ ไม่อยากให้เกิดความวุ่นวาย

เมื่อถามต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะนำเวทีปราศรัยใหญ่ ในวันที่ 7 เม.ย. นี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า มันควรจะเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า

เมื่อถามอีกว่า การจัดบัญชีรายชื่อ ส.ส. ของพรรค รทสช. เรียบร้อยแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เรียบร้อย อาจจะมีการแก้ไข เมื่อแก้ไขก็ต้องทำใหม่หมด นั่นคือหลักการของทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อส่งไปก็ต้องดูว่า มีการเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่ มีคนลาออกมีคนย้ายอีกหรือเปล่า ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน กำลังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบอยู่ แต่อย่างไรมันก็ทันเวลาอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การจัดบัญชีรายชื่อจะแบ่งอย่างไร มีรายงานว่าแบ่งเป็นสัดส่วนของพรรคและสัดส่วนของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่ามาบอกว่าเป็นสัดส่วนของใคร เราพิจารณาคนที่ทำงาน ก็ทำงานมาด้วยกัน ซึ่งต้องดูว่างานมากงานน้อย ใครควรจะอยู่ระดับไหนก็ว่ากันไปตามความเหมาะสม เรียกว่าให้ความเป็นธรรมทุกคน และทุกคนก็อยากจะอยู่ในบัญชีรายชื่อ อยากอยู่ต้นๆ ก็ต้องไปดูผลงานต่างๆ เป็นอย่างไร ซึ่งต้องยอมรับกันในมติส่วนใหญ่

เมื่อถามว่า ผลสำรวจยังเป็นรองพรรคการเมืองอื่น จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การหาเสียงอย่างไรหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ไม่เห็นเป็นไร กลยุทธ์ของตนคือการพูดความจริงและข้อเท็จจริง ตนพูดจากประสบการณ์ที่มีมาตลอดระยะเวลาหลายปี 4 ปีแรกตนไม่พูดก็ได้ ตนพูดถึง 4 ปีหลัง ได้ทำงานร่วมกับนักการเมือง พรรคการเมืองมาโดยตลอด ซึ่งตนรู้ว่าอะไรเป็นอย่างไรก็แล้วกัน ขึ้นอยู่กับว่าประชาชนจะฟังอย่างไร มีเหตุมีผลหรือเปล่า วันนี้ประเทศไทย ต้องการความสงบเรียบร้อยใช่หรือเปล่า

เมื่อถามว่าวันที่ 31 มี.ค. ไม่มีวาระงานทำเนียบฯ นายกรัฐมนตรีจะไปลงพื้นที่ที่ไหนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมก็มีงานไปทำงาน แต่วันที่ 31 มี.ค. รู้สึกมีงานการเมือง ไม่รู้ บางครั้งไม่ต้องตามหรอก ฉันแอบไปเธอไม่ต้องรู้”

เมื่อถามด้วยว่า นายกฯ ลงพื้นที่ไม่ต้องแอบไปก็ได้ เพื่อสื่อจะได้เห็นบรรยากาศความเป็นจริง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่ได้แอบ แต่ผมไม่ได้แจ้งใครในการลงพื้นที่ แต่บางครั้งก็คำนึงถึงความปลอดภัยของผมเหมือนกัน เพราะดูแลผมไม่ได้มากนัก เพราะผมเป็นนักการเมือง”