เมื่อวันที่ 1 เม.ย. เวลา 07.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายวัชระ เพชรทอง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตเลือกตั้งที่ 29 หนองแขม บางแค ภาษีเจริญ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมลงพื้นที่ศูนย์การค้าหนองแขม เขตหนองแขม เพื่อพบปะประชาชนพร้อมขอคะแนนเสียงสนับสนุนในการเลือกตั้ง ส.ส. โดยได้รับการตอบรับจากพ่อค้า แม่ค้า และประชาชน ที่มาซื้อสินค้าในตลาดแห่งนี้ โดยยังมีประชาชนมาขอถ่ายรูปคู่กับนายอภิสิทธิ์ เป็นระยะๆ เหมือนเช่นเคย
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกเขตเลือกตั้ง มีทั้งความนิยมของพรรคการเมืองและตัวผู้สมัคร ส.ส. แตกต่างกันไป ขณะเดียวกัน แต่ละเขตผู้สมัครมีจุดแข็งของตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายวัชระ ที่มีจุดขายคือความเสมอต้นเสมอปลายในการลงพื้นที่ และยังเป็นปากเสียงในการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้ชาวบ้าน ทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่สำคัญของ ส.ส. อีกทั้งนายวัชระ ได้ทำงานตรวจสอบมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ จะเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ในกรุงเทพฯ ในวันที่ 7 เม.ย. นี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนติดภารกิจที่ต่างจังหวัดในวันดังกล่าว จึงไม่ได้ขึ้นเวทีปราศรัยนี้ด้วย แต่ยังมีอีกหลายเวทีที่ตนพร้อมไปช่วยปราศรัย โดยขึ้นอยู่กับทางพรรคจะประสานมา รวมถึงการปราศรัยใหญ่เวทีในต่างจังหวัด โดยในวันที่ 4 เม.ย. นี้ ตนจะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส. ที่ จ.กระบี่ สำหรับวันที่ 3 เม.ย. ซึ่งเป็นวันเปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ตนจะไปร่วมขึ้นรถแห่กับ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ตระเวนหาเสียงในเขตคลองเตย ในช่วงบ่ายของวันดังกล่าว

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะคัมแบ๊กกลับมาปักธงในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ผู้บริหารพรรคตั้งเป้าไว้แบบนั้น ขณะที่เรามีหน้าที่ทำให้ดีที่สุด ส่วนกระแสตอบรับจากการลงพื้นที่และจัดเวทีปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ใต้สะพานพระราม 8 เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา พบว่ามีคนกรุงเทพฯ จำนวนไม่น้อย ที่ยังมีความผูกพันและเห็นคุณค่าของพรรคประชาธิปัตย์ในระบบการเมือง รวมถึงหลายพื้นที่มีบุคลากรของพรรค ที่เคยทำงาน และประชาชนยังผูกพันอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ถ้าถามว่าจะต้องชนะหรือไม่นั้น ก็ไม่แน่ จึงต้องทำงานกันอย่างหนักและต่อเนื่องจนถึงวันเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวถามถึงความแตกต่างของการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 กับในปีนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ระบบเปลี่ยนไป จากบัตรเลือกตั้ง 1 ใบ เป็น 2 ใบ ทั้งนี้ หลายคนคุ้นเคยระบบนี้มาตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งการเลือกตั้งที่ใช้บัตร 2 ใบ จะมีผลกระทบกับทุกพรรคการเมือง โดยบางพรรคอาจได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์ สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเทียบเป็นสัดส่วนจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตที่ได้รับเลือกตั้ง จะได้ต่ำกว่าคะแนนที่ได้รับ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าได้คะแนน 20 เปอร์เซ็นต์ ที่นั่ง ส.ส. ของพรรคจะไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้บัตร 2 ใบ อาจทำให้พรรคประชาธิปัตย์เสียเปรียบเล็กน้อย เพราะถ้าระบบบัตรใบเดียว ถ้าได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ก็จะได้ที่นั่งส.ส. 20 เปอร์เซ็นต์เท่ากัน แต่การเลือกตั้งบัตร 2 ใบ ทำให้ประชาชนมีทางเลือกว่า จะเลือกผู้สมัคร ส.ส.เขต กับพรรค ซึ่งอาจมีบางพื้นที่ที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต อาจทำได้ดีกว่าพรรค