เมื่อวันที่ 1 เม.ย. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดับไฟป่าในพื้นที่ จ.นครนายก ว่า สำหรับรายงานความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. ของวันที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา สถานการณ์ฮอตสปอตแถบ จ.นครนายก ไม่พบ ตั้งแต่ช่วงเวลา 02.00 น. ที่ผ่านมา แต่ยังมีกลุ่มควันบริเวณเขาตะแบก ซึ่งกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าเข้าไปดูรายละเอียดประมาณ 50 นาย รวมถึงส่งเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวง 6 ลำ เข้าพื้นที่เพื่อสนับสนุนการโปรยน้ำ และควบคุมสถานการณ์ ในขณะที่หลายหน่วยงาน ก็ได้ระดมกำลังกันเข้ามาร่วมสนับสนุน ดังนั้นสถานการณ์ไฟป่าที่จังหวัดนครนายก สามารถควบคุมได้ ในภาพรวม กระทรวงทรัพยากรฯ ได้ระดมเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้ ประมาณ 300 นาย รวมถึงอากาศยานเข้าระดมกำลังในการปฏิบัติการครั้งนี้

นายวราวุธ ยังกล่าวถึงความคืบหน้ากรณีไฟป่าทางภาคเหนือว่า เมื่อเย็นวันที่ 31 มี.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้พบผู้เสียชีวิตชาวเชียงใหม่ 1 ราย อายุ 39 ปี เป็นราษฎรที่เข้าไปช่วยดับไฟ ซึ่งคาดว่าพยายามเข้าช่วยดับไฟป่า แต่ไฟป่าลุกลามขึ้นมา กระทั่งหนีไม่ทัน จึงเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามช่วยค้นหาและได้พบร่าง เมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 มี.ค. คาดว่าจะเป็นการสำลักควันไฟ และตกลงมาจากพื้นที่ ซึ่งสภาพของผู้เสียชีวิตไม่ได้ถูกไฟไหม้ ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังระดมกำลังช่วยเหลืออยู่ ซึ่งกระทรวงทรัพยากรฯ จะช่วยเหลือตามกฎเกณฑ์ของกรมอุทยานฯ ที่เรามี ทั้งนี้ ได้แสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต

นายวราวุธ กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคเหนือ ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ถึงสิ้นเดือนมีนาคม เกิดจุดความร้อนขึ้นทั้งหมด กว่า 57,000 จุด ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์หรือพื้นที่อุทยานประมาณ 33,000 จุด ในพื้นที่ป่าสงวนประมาณ 24,000 จุด ซึ่งมาตรการต่างๆ ทางกรมอุทยานฯ ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่นับ 1,000 นาย จากทั่วทุกภาค ขึ้นมาช่วยสนับสนุนการปฏิบัติงาน นอกจากนี้ กระทรวงยังใช้กำลังคนกระจายเดินเคาะประตูตามบ้านนับ 1,000 หลังคาเรือนในพื้นที่ เพื่อทำความเข้าใจและขอความร่วมมือ อย่าไปเผา

นายวราวุธ กล่าวว่า กรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ ได้ประสานงานกับทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ได้ปิดอุทยานไปเป็น 100 แห่ง ส่วนป่าไม้ก็ปิดไปเกือบ 20 กว่าป่าภาคเหนือ อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้สั่งการทุกๆ หน่วยงาน ซึ่งกระทรวง ทส. พร้อมเป็นแนวร่วมสำคัญให้กับทางจังหวัดและพื้นที่

“ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ เพราะขณะนี้พบว่าเริ่มมีจุดความร้อนที่ดอยสุเทพ เพิ่มขึ้นมา ขอความร่วมมือประชาชนคอยสอดส่อง และขอความกรุณาอย่าทำร้ายพี่น้องประชาชนคนไทยด้วยกันไปมากกว่านี้เลย หากพบเห็น ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยด่วน และหากไม่มั่นใจเรื่องการดับไฟ ขออย่าเข้าไปใกล้พื้นที่ไฟไหม้ เพราะอันตรายมาก” นายวราวุธ กล่าว.