โดยเฉพาะที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานคุณภาพอากาศ โดยตรวจวัดค่าฝุ่น PM 2.5 ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง สูงสุดแตะที่ 586 มคก./ลบ.ม. จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก./ลบ.ม. เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา และค่าฝุ่นพิษในพื้นที่ภาคเหนือยังคงอยู่ในขั้นวิกฤติเป็นอันตรายต่อสุขภาพเนื่องมาจนถึงวันนี้

คพ.ระบุว่า สาเหตุของฝุ่นพิษที่รุนแรงในครั้งนี้เกิดจากการเผาพื้นที่เกษตรทั้งภายในประเทศ และหมอกควันข้ามแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน สอดคล้องกับข้อมูลของจิสดาที่พบจุดความร้อนในเมียนมา และสปป.ลาวจำนวนมาก ขณะที่ข้อมูลจากกรมอุทยานฯ ระบุว่าสถานการณ์ไฟป่าภาพรวมทั้งประเทศพบจุดความร้อนสะสมตั้งแต่ 1 ต.ค.65-31 มี.ค. 66 จำนวน 120,418 จุด อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 48,079 จุด พื้นที่คงสภาพป่า 46,366 จุด พื้นที่ราษฎรใช้ประโยชน์ 1,713 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 33,928 จุด นอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนฯ 38,411 จุด โดยกรมอุทยานฯ ได้สั่งปิดอุทยานฯ และพื้นที่ป่าอนุรักษ์อื่นๆ ไปแล้ว 101 แห่ง ส่วนมากอยู่ในพื้นที่ภาคเหนือและตะวันตก แต่การเผาป่าก็ยังคงเกิดขึ้นโดยไม่ได้เกรงกลัวต่อกฎหมาย

ขณะที่สถานการณ์ไฟป่าหมอกควันภาคเหนือกำลังระอุ ประชาชนต้องสูดฝุ่นพิษเข้าปอดอย่างไม่มีทางเลือก ในส่วนของการแก้ปัญหาของภาครัฐก็ดูเหมือนจะล่าช้าไม่ทันท่วงที ทั้งที่เป็นปัญหาที่เกิดซ้ำซากตามวงรอบทุกปี แต่รอบนี้มาประจวบเหมาะกับเป็นช่วงรัฐบาลรักษาการของ บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะเกียร์ว่างน็อตหลวมในหน่วยงานที่รับผิดชอบทั้งในระดับกระทรวงหรือจังหวัดหรือไม่ เพราะฝ่ายการเมืองต่างก็สาละวนอยู่กับการหาเสียงเพื่อลงสนามเพื่อตั้งที่จะมีขึ้นวันที่ 14 พ.ค.นี้ และหากออกตัวออกแรงมากไปก็เกรงจะไปขัดกับกฎหมายและข้อห้ามของ กกต. เป็นปัญหาตามมาในภายหลัง

ล่าสุด กรีนพีซ ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการของ บิ๊กตู่” ประกาศพื้นที่ฝุ่นพิษในระดับที่เข้มข้นต่อเนื่องกัน 5 วันเป็นเขตภัยพิบัติทันที พร้อมมีระบบตรวจสอบย้อนกลับการรับซื้อสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้องกับการเผาทั้งในและต่างประเทศ มีการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งต้องยุติโครงการเหมืองถ่านหินและโครงการไฟฟ้าถ่านหินทั้งในและนอกประเทศเพราะเป็นแหล่งกำเนิดหลักของฝุ่นพิษ PM 2.5 เป็นต้น

วันนี้ประชาชนยังมีความหวังต่อการแก้ปัญหาของรัฐบาลได้หรือไม่ หรือจะต้องคอยฟ้าคอยฝนคอยทิศทางลมมาช่วยดับไฟไล่ฝุ่นตามยถากรรม ซึ่งปัญหาหมอกควันไฟป่าฝุ่นพิษ PM 2.5 ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ที่จะมองข้ามไปได้อีกต่อไปเพราะกระทบทั้งต่อสุขภาพ คุณภาพชีวิต ตลอดไปจนเศรษฐกิจรายได้ของประชาชนอย่างมหาศาล ดังนั้น การเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น หากพรรคการเมืองใดมีนโยบายแก้ปัญหาในเรื่องนี้ได้อย่างเป็นรูปธรรมก็น่าได้ซื้อใจประชาชนได้ไม่น้อย.