ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว วิคเตอร์ กุซมัน หลังจากที่เขากระโดดลงจากบอลลูนลมร้อน ที่กำลังไหม้ไฟที่ความสูง 16 ฟุตเหนือพื้นดิน เพื่อเอาชีวิตรอด แต่ปล่อยให้ผู้โดยสารซึ่งเป็นคู่สามีภรรยาติดอยู่ในตะกร้าโดยสาร และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
รายงานข่าวระบุว่า กุซมัน โดนตำรวจควบคุมตัว หลังจากที่ได้รับการรักษาบาดแผลไฟไหม้ระดับสอง ที่บริเวณใบหน้าและแขน
เหตุการณ์น่าสลดใจครั้งนี้ เกิดขึ้นในวันเสาร์ที่ 1 เม.ย. ที่ผ่านมา โฮเซ โนลาสโก วัย 50 ปี ต้องการทำเซอร์ไพร้ส์วันเกิด วิริเดียนา เบเซร์ริล วัย 39 ปี ภรรยาของเขา ด้วยทริปขึ้นบินกับบอลลูนลมร้อน พร้อมกับ เรจินา อิตซานิ ลูกสาววัย 13 ปี ของเขา จึงจัดการเช่าบอลลูนลมร้อนดังกล่าว ซึ่งมีเส้นทางบินเหนือเขตเมืองโบราณและพีระมิดแห่งเตโอติอัวกัน ในประเทศเม็กซิโก
เที่ยวบินฉลองวันเกิดกลายเป็นเที่ยวบินมรณะ เมื่อเกิดปัญหาขึ้นกับระบบก๊าซของบอลลูน ซึ่งทำให้ห้องโดยสารโดนเปลวไฟโหมไหม้ หลังจากที่บอลลูนขึ้นบินในเวลาประมาณ 08.00 น.
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า โฮเซ และ วิริเดียนา สองสามีภรรยาเสียชีวิตในเปลวเพลิง ส่วนลูกสาวของเขารอดมาได้ เพราะตัดสินใจกระโดดลงมาจากตะกร้าโดยสารที่ลอยอยู่เหนือพื้นดิน
มีผู้บันทึกภาพวิดีโอในช่วงนาทีแห่งความตายเอาไว้ ระหว่างที่หนูน้อย เรจินา และ กุซมัน ตัดสินใจกระโดดลงจากบอลลูน ขณะที่สองสามีภรรยา อยู่ท่ามกลางเปลวไฟ
ขณะนี้ เด็กหญิงกำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เนื่องจากเธอได้รับบาดเจ็บ มีแผลไฟไหม้ระดับสองและแขนหัก ส่วนกุซมัน โดนตั้งข้อหาฆาตกรรม จากการที่เขาทิ้งผู้โดยสารทั้งสองแล้วหนีเอาตัวรอด เนื่องจากไม่รู้วิธีรับมือเหตุการณ์ฉุกเฉิน
เรย์ยา ซาร์เมียนโต แม่ของ วิริเดียนา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวท้องถิ่นว่า เรจินา ได้กอดพ่อแม่ของเธอเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะตัดสินใจกระโดดลงจากบอลลูน เด็กหญิงให้ข้อมูลว่า ถังก๊าซแรงดันสูงเกิดติดไฟ และทำให้ไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว
สหพันธ์บริหารการบินสหรัฐ จะเป็นผู้นำการสืบสวนคดีนี้ และกำลังสืบว่าบริษัทให้บริการ ซึ่งก็คือ บริษัทออโตซีเนมา รีโทรวิโซ นั้น มีใบอนุญาตให้บริการเที่ยวบินด้วยบอลลูนลมร้อนหรือไม่ รวมถึงมีการทำประกันภัยครอบคลุมกรณีอุบัติเหตุเช่นนี้ด้วยหรือไม่
ตามข้อมูลของคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติสหรัฐ มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบอลลูนลมร้อนเพียง 16 ราย ระหว่างปี 2545-2559 หรือเพียงปีละ 1 รายเท่านั้น
แหล่งข่าว : ladbible.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
