สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ว่า สำนักข่าวกลางเกาหลี (เคซีเอ็นเอ) กระบอกเสียงของรัฐบาลเปียงยาง รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี ว่า การที่เกาหลีใต้กับสหรัฐ ยังคงซ้อมรบปีละหลายครั้งเช่นนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับความตึงเครียดให้กับบรรยากาศบนคาบสมุทรเกาหลี แต่ยังเป็นการยิ่งทำให้ภูมิภาคแห่งนี้เข้าใกล้ปากเหว ของการเกิดสงครามนิวเคลียร์มากขึ้นเท่านั้น
S. Korea, U.S. conduct joint air drill involving B-52H U.S. bomber#Strategic_bomber #Joint_air_drill #한미연합훈련 #공중훈련 #Arirang_News pic.twitter.com/iKGJvb3a6P
— Arirang News (@arirangtvnews) April 5, 2023
ทั้งนี้ สหรัฐส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ บี-52 อย่างน้อย 1 ลำ เข้าร่วมการฝึกซ้อมรบทางอากาศครั้งใหม่กับเกาหลีใต้ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นอกจากนั้น ยังมีเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 และเอฟ-35 ของทั้งกองทัพสหรัฐและเกาหลีใต้เข้าร่วมด้วย
S. Korea backs UNHRC resolution on N. Korea human rights for first time in 5 years#UNHRC_resolution #NorthKorea #human_rights #UN_Human_Rights_Council #유엔_인권이사회 #북한 #인권결의안 #Arirang_News #아리랑뉴스 pic.twitter.com/WcFgT5gGP8
— Arirang News (@arirangtvnews) April 5, 2023
ในอีกด้านหนึ่ง นายฮัน แท-ซอง เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำสำนักงานคณะผู้แทนถาวรสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวถึงการที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชอาร์ซี) มีมติประณามรัฐบาลเปียงยาง ว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนในเกาหลีเหนือ ว่า “เป็นการคุกคามทางการเมืองในระดับร้ายแรง” และเป็นการใส่ร้ายป้ายสีเกาหลีเหนือ
อนึ่ง มติดังกล่าวของยูเอ็นเอชอาร์ซีเป็นมติประจำปี และที่ประชุมลงมติในหัวข้อนี้ต่อเกาหลีเหนืออย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปี 2546.
เครดิตภาพ : REUTERS