เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 เม.ย. ที่ห้องประชุม 2 อาคาร HSO5 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีการจัดเวทีรณรงค์ต่อพรรคการเมือง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “พรรคการเมือง : สวัสดิการเด็กเล็ก ถึงเวลาต้องถ้วนหน้า ได้หรือยัง” โดย น.ส.เยาวภา บุรพลชัย ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) กล่าวนำเสนอนโยบายพรรคชาติพัฒนากล้า ดังนี้ 1.เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โดยการเพิ่มงบประมาณงินอุดหนุนคุณแม่เพื่อเลี้ยงดูบุตรตั้งแต่อายุ 0-6 ปี เดือนละ 2,000 บาท โอนตรงเข้าบัญชีมารดา-(ถ้วนหน้า) เพื่อเด็กไทยทุกคนจะได้มีหลักประกันการดูแลอย่างมีคุณภาพตั้งแต่คุณแม่อายุครรภ์ 3 เดือน ทำให้ผู้ปกครองมีงบค่าใช้จ่ายในการดูแลเด็ก เช่น อุปกรณ์ อาหาร สื่อการเรียนการสอน 2.จัดตั้งศูนย์เด็กเล็กคุณภาพ ส่งเสริมการจัดตั้ง Day care ในโรงงาน สถานที่ทำงาน โดยมี Tax incentive-มารดาที่ต้องออกจากงานหรือว่างงานเพราะต้องมาดูแลเด็กอ่อน สามารถอยู่ในระบบงานได้ต่อไป ไม่ต้องลาออก และได้อยู่ใกล้ชิดกับลูก

น.ส.เยาวภา กล่าวต่อว่า 3.พัฒนาศูนย์เด็กเล็ก เพิ่มงบประมาณเงินอุดหนุนศูนย์เด็กเล็ก (6 เดือน-4 ขวบ) หัวละ 500 บาทต่อเดือน จ่ายงบประมาณผ่านท้องถิ่นแบ่งเป็น Phase และกำหนดให้โรงเรียนต้องปรับหลักสูตร และพัฒนาทักษะครูพี่เลี้ยงให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเด็กที่กำลังเป็นวัยเรียนรู้ 4.ลดเวลาเรียนเพิ่มเวลาเล่นกีฬา นำกีฬามาพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีสุขภาพแข็งแรง จิตใจแจ่มใสสมวัย ฝึกระเบียบวินัย 5.Mini Sport Complex ทุกตำบล เพื่อส่งเสริมให้คนทุกวัยเพศทุกวัย โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนเล่นกีฬา สร้างกิจกรรมครอบครัวด้วยกีฬา เพื่อให้เด็กห่างจากจอโทรศัพท์ และสร้างชุมชนที่มีความสุขและสันติ

น.ส.เยาวภา กล่าวต่อว่า 6.เพิ่มทักษะเด็กไทย 3 ภาษาไทย-ต่างประเทศ-Coding เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้เด็กไทย โดยส่งเสริมการนำภาษาที่ 3 มาใช้ในชีวิตประจำวัน ภายในสถานศึกษา จ้างครูภาษาต่างประเทศ ประจำโรงเรียนเพิ่ม 30,000 คน เพิ่มหลักสูตรเขียนภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์พื้นฐาน เพิ่มอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนระดับประถมและมัธยม โดยแนวทางการหางบประมาณมาใช้เพื่อทำสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า มาจากนโยบายยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเฉดสี (Spectrum Economy) โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว พลังของซอฟต์พาวเวอร์ อาหารไทย มวยไทย วัฒนธรรมไทย แหล่งท่องดที่ยวสายมู รวมถึงธุรกิจสีเทาที่จะเปลี่ยนส่วยเป็นภาษี จะสร้างเม็ดเงินมหาศาล เป้าหมายสร้างรายได้ใหม่ให้ประเทศ 5 ล้านล้านบาท ภายใน 4 ปี

“ซึ่งนโยบายเหล่านี้ พรรคชาติพัฒนากล้าสามารถทำได้จริงเเละเป็นประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนไทยอย่างแน่นอน ภายใต้การนำของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรค อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่มีประสบการณ์และวิสัยทัศน์ที่ทันยุคทันสมัย และนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค อดีต รมว.คลัง ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจและการเงินทั้งภาครัฐและภาคเอกชน” น.ส.เยาวภา กล่าว.