จากกรณี น.ส.ธิดาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี ได้ส่งได้ส่งข้อความทางแชต เป็นข้อความตัดพ้อเกี่ยวกับความผิดพลาดของชีวิตและขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง พร้อมทั้งข้อความสั่งเสียฝากดูแลพ่อแม่ ก่อนจะส่งข้อความบอกลาในกลุ่มแอพสนทนาของกลุ่มญาติ ซึ่งต่อมาญาติๆ ได้ออกตามหาจนพบ จยย. พร้อมทรัพย์สินของ น.ส.ธิดาพร จอดอยู่สะพานศรีสุราษฎร์ ซึ่งเป็นสะพานขนาดใหญ่ข้ามปากแม่น้ำตาปี ต.บางกุ้ง อ.เมือง และเชื่อว่า น.ส.ธิดาพร ได้ก่อเหตุกระโดดสะพานเพื่อฆ่าตัวตาย มาจากเครียดจากการเข้าไปเล่นพนันออนไลน์จนเสียเงินเก็บที่ตั้งใจเก็บไว้ซื้อรถยนต์ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 06.20 น. วันที่ 31 ส.ค. พ.ต.ท.กิตติพล จุลศักดิ์ สว.สอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งจากญาติว่า ได้พบศพ น.ส.ธิดาพร แล้วบริเวณปากร่องแม่น้ำตาปี ห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 3 กม. ใกล้กับศาลกรมหลวงชุมพรฯ ซึ่งญาติๆ ได้ร่วมกับชาวบ้าน นำร่างมาไว้ที่โป๊ะใต้สะพานศรีสุราษฎร์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ เบื้องต้นทราบว่า ตลอดตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) ญาติ ๆ ได้ร่วมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังค้นหาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ญาติเชื่อ สาวโดดแม่น้ำตาปี เครียดติดเล่นพนันออนไลน์แถมโอนเงินพลาดอีก

ขณะที่ญาติได้ใช้เรือลัดเลาะไปตามชายฝั่งบริเวณปากแม่น้ำตาปี เพื่อไปบนบานศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากอ่าวบ้านดอนและขณะเดินทางกลับ ก็ได้พบร่างของ น.ส.ธิดาพร ลอยอยู่จึงช่วยกันนำร่างขึ้นมาจากน้ำ ก่อนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ ต่อมาได้นำร่างของ น.ส.ธิดาพร ส่งตรวจชันสูตร ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ก่อนมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ทางด้าน พ.ต.อ.ฐาปกรณ์ หนุมาศ ผกก.3 บก.สอท.5 (สุราษฎร์ธานี) กล่าวว่า ได้รับการประสานจากตำรวจท้องที่กรณีที่พบว่าผู้เสียชีวิตได้ไปลงบันทึกประจำวัน ว่า ได้มีการโอนเงินผิดบัญชี ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า เลขบัญชีธนาคารที่น้องเขาโอนไปนั้น เป็นเลขบัญชีสำหรับเว็บพนันออนไลน์และอยู่ระหว่างการสืบสวนข้อมูลของเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่าได้มีเว็บการพนันที่พยายามชักชวนเด็กและเยาวชน ให้หลงเชื่อไปเข้าไปเล่นการพนันกับเว็บไซต์ในรูปแบบต่างๆ เช่น การส่งข้อความทางไลน์ หรือแอพพลิเคชั่นที่เด็ก ๆ เยาวชนให้ความสนใจ จนต้องตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก หากพบเห็นการชักชวนให้มีการเล่นพนันในรูปแบบต่างๆ ขอให้แจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ทราบ สายด่วน กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ไซเบอร์) หมายเลข  1441 หรือที่เพจเฟซบุ๊กกองบัญชาการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี