เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 เม.ย. ที่ห้องประชุมจันทร์จรัส อาคารอธิการบดี ชั้น3 มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม กทม. ศูนย์สื่อสารเอเชียแปซิฟิก สำนักสารนิเทศต่างประเทศแห่งประเทศจีน ร่วมกับ สถาบันวิจัยประเทศจีนและโลกร่วมสมัย และศูนย์วิจัยหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางไทย-จีน ร่วมกันจัดงาน “สัมมนาจีนร่วมสมัยกับโลก การแลกเปลี่ยนระหว่างคนรุ่นใหม่ไทย-จีน” ขึ้นเพื่อเรียนรู้ผลการพัฒนาระหว่างไทยจีนในยุดสมัยใหม่ และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระว่างคนรุ่นใหม่ไทย-จีน

เนื่องด้วยปี พ.ศ.2566 เป็นการครบรอบ 10 ปีของข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ซึ่งประเทศจีนจะจัดการประชุมสุดยอดว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศ หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ครั้งที่ 3 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือแบบพหุภาคีและร่วมสร้างประชาคมแห่งโชคชะตาร่วมการของมนุษยชาติ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้นำเสนอ แนวคิดสร้าง “แถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม” พร้อมกับข้อริเริ่ม “เส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ 21” ในระหว่างการเยือนคาซัคสถาน และอินโดนีเซีย ตามลำดับ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” จึงเป็นชื่อย่อของ “แถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม” และข้อริเริ่ม “เส้นทางสายไหมทางทะเลในศตวรรษที่ 21”

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวในวันครบรอบ 100 ปี ของการก่อตั้งสันนิบาตเยาวชนคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนว่า “คนรุ่นใหม่เข้มแข็ง ประเทศเจริญรุ่งเรือง” โดยระบุว่า คนรุ่นใหม่เป็นความหวังของการพัฒนาและนวัตกรรม ซึ่งความเข้าใจกันและความร่วมมือกันระว่างไทย-จีน จึ่งเป็นสิ่งสำคัญในความร่วมมือไทยจีน

การจัดงานสัมมนาจีนร่วมสมัยกับโลก การแลกเปลี่ยนระหว่างคนรุ่นใหม่ไทย-จีน ในครั้งนี้มีผู้บริหารหรือผู้แทนจาก สถานเอกอัครราชทูต สาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ผู้บริหารและผู้แทนจากคลังสมอง สำนักงานวิจัยแห่งชาติ สมาชิกสมาคมมิตรภาพไทย-จีน สมาชิกสมาคมการค้าการลงทุนจีนในไทย สื่อมวลชนไทยและจีน และได้รับเกียรติจากนายหาน จือเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย, นายเกา อันหมิง รองประธาน(CICG) สำนักสารนิเทศต่างประเทศแห่งประเทศจีน และ นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทยจีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ ร่วมปาฐกถาพิเศษในครั้งนี้ด้วย

นายหาน จือเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษภายในงานสัมนาจีนร่วมสมัยกับโลก การแลกเปลี่ยนระหว่างคนรุ่นใหม่ไทย-จีน โดยช่วงหนึ่งได้ระบุว่า “ไทย-จีนครอบครัวเดียวกัน”ไทยจึงเป็น1ใน 20 ประเทศนำร่องที่จีนอนุญาตให้ชาวจีนมาท่องเที่ยวได้ ซึ่งเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาพบว่ามีนักท่องเที่ยวเที่ยวชาวจีนเข้ามาร่วมเล่นสงกรานต์เป็นจำนวน สร้างบรรยากาศที่ดี นอกจากนี้ยังควรมีการส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจดิจิตัล ส่งเสริมเส้นทางสายไหมสีเขียว ส่งเสริมด้านการสาธารณสุข การแพทย์แผนโบราณของทั้ง 2 ประเทศ เป็นต้น เพื่อให้ไทย-จีนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ขณะที่นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทยจีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางและการร่วมสร้างประชาคมแห่งโชคชะตาร่วมกันของเอเชียแปซิฟิค โดยช่วงหนึ่งกล่าวว่า โลกยุคใหม่ทุกคนตื่นตัว ข่าวสารมีทั่วถึง จึงทำให้รู้เท่าทันว่าเรื่องต่างๆจริงหรือไม่ ทั้งนี้การแลกเปลี่ยนของคนรุ่นใหม่นั้นจึงต้องยืนอยู่ด้วยความจริงใจและยืนอยู่ด้วยความเป็นจริง จึงอยากเสนอให้ CICG จัดงานสัมมนาแบบนี้ในไทยทุกเดือน โดยสภาวัฒนธรรมไทยจีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ พร้อมร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัด เพราะเชื่อว่าจะช่วยพัฒนาคนรุ่นใหม่ทั้งไทยและจีนให้เกิดผลอีกมาก และสภาวัฒนธรรมไทยจีน และส่งเสริมความสัมพันธ์ยินดีที่จะเป็นสะพานมิตรภาพนำคณะเยาวชนจากไทยไปเยี่ยมยีนที่ประเทศจีน เพื่อให้ความร่วมมือนี้เห็นเป็นรูปธรรม

นอกจากนี้ นายพินิจได้ให้สัมภาษณ์หลังกล่าวปาฐกถาพิเศษถึงงานสัมมนาในวันนี้ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีและจะเป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ความร่วมมือในทุกด้านระหว่างประเทศไทยและจีนเป็นอย่างมากทั้งด้านความมั่นคง การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว วัฒนธรรม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ถือว่าจีนประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศจนจีนมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ2 ดังนั้นจีนจะกลายเป็นตลาดการค้าที่ใหญ่ของไทย และเป็นประเทศที่มีองค์ความรู้ในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็น ชิป AI และอื่นๆรวมทั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ การสัมมนาจึงทำให้เกิดการกระชับความสัมพันธ์ของคนรุ่นใหม่ที่จะรับไม้ต่อจากคนรุ่นเก่า ได้มีเวทีทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือที่มีต่อกันในอนาคตได้เป็นอย่างดี

นายเกา อันหมิง รองประธาน(CICG) สำนักสารนิเทศต่างประเทศแห่งประเทศจีน ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ส่งเสริมความร่วมมือคนรุ่นใหม่ไทย-จีนและรวมพลังสร้างหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ซึ่งในช่วงหนึ่งของการปาฐกถา นายเกา กล่าวว่า คนรุ่นใหม่ถือว่าเป็นคนสำคัญมีพลังในการขับเคลื่อน การพัฒนาให้คนรุ่นใหม่ไทย-จีนให้มีการทำงานร่วมกัน จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดย CICG พร้อมส่งเสริมการแลกเปลี่ยน สร้างแพลทฟอร์ม และสร้างการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน ส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีให้สอดคล้องกับหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ส่งเสริมและแลกเปลี่ยนข้อมูลสตาร์ทอัพของคนรุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์เพื่อแสวงหาโอกาส รวมทั้งสร้างกลไกเพื่อเอื้อต่อความร่วมมือแก่ทั้ง2ฝ่าย เพื่อสร้างประชาคมที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

นอกจากนี้ภายในงานสัมมนา ยังมีการเสวนาในเรื่อง“การแลกเปลี่ยนระหว่างคนรุ่นใหม่ไทย-จีน”และพิธีมอบรางวัล การแข่งขันเรียงความ“แพนด้าสันถวไมตรี” อีกด้วย.