เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่หน้าประตูทางเข้า-ออก อาคารรัฐสภา ช่วงเวลา 15.00 น.​ ที่ผ่านมา​ กลุ่มเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยกลุ่มทะลุฟ้า คณะไทยไม่ทน เครือข่ายสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย และเครือข่ายองค์กรณ์ภาคประชาชน นำรถติดเครื่องขยายเสียงร่วมกันจัดกิจกรรมอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีของ​ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีจุดประสงค์เพื่อขับไล่รัฐบาล​ ภายหลังมีการบริหารงานที่ล้มเหลว

ต่อมา พ.ต.อ.พงศ์พัชร์ แจ้งหมื่นไวย์ ผกก.สน.บางโพ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ​ สน.บางโพ มากระจายกำลังตามจุดต่างๆ เพื่อคอยรักษาความสงบ เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุอันตรายจากบุคคลผู้ไม่หวังดี พร้อมประกาศของคณะแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินผ่านเครื่องขยายเสียงว่า ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมคำนึงถึงช่วงเวลา เนื่องจากอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยสามารถจัดกิจกรรมได้แต่ให้ยึดถือแนวทางในการควบคุมและป้องกันของโรคติดต่อ และอย่าฝ่าฝืนคำสั่ง โดยจัดกิจกรรมอย่างสงบและปราศจากอาวุธ นอกจากนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยังร่วมกันจัดบูธต่าง อาทิ เขียนข้อความออกแบบสิทธิและโอกาสที่ควรพึงมีผ่านรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน, บูธปาเป้าประยุทธ์ ชิงรางวัล และมีการแสดงดนตรีสด และจะยุติการชุมนุมในเวลา 20.00 น.

ต่อมาเวลา 17.00 น. ฝนได้ตกลงมาอย่างหนักทำให้มวลชนที่มารอฟังการปราศรัยได้กรูกันเก็บข้าวของ หาที่ร่มหลบฝน​ ส่วนเวทีก็ยังมีการอภิปรายต่อเนื่องท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก

จากนั้น เวลา 17.25 น. นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ลูกนัท ได้ขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล​ พล.อ.ประยุทธ์​ นอกสภา ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทั้งนี้ นายธนัตถ์ได้กล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล รวมทั้งการใช้กำลังกับประชาชนในการสบายการชุมนุม ซึ่งมีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า ก่อนอื่น ต้องขอบคุณ ส.ส.รังสิมันต์ โรม ที่อภิปรายในสภา เรื่องการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ คฝ. ทราบว่า มีพี่น้องที่บาดเจ็บหนักกว่าตน และไม่สามารถเข้าถึงกระบวนการทางสาธารณสุขที่มีคุณภาพได้ เพราะไม่มีเงิน นี่คือสาเหตุที่ตนบอกว่า อย่าให้เกิดกับคนอื่น

นายธนัตถ์ กล่าวต่อว่า ถามว่าใครเป็นผู้สั่งการ คฝ. ผมได้โทรฯ​ ถาม พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวส อดีต​ ผบ.ตร. ท่านตอบได้อย่างตรงไปตรงมา คฝ.ไม่ใช่หน่วยงานตำรวจ แต่คือหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ที่ต้องใช้งบจากนายกรัฐมนตรี ผมจึงถามว่า แล้วอย่างนี้ นายกฯ​ เป็นคนอนุมัติให้ออกมาใช่หรือไม่ สั่งการอย่างเดียวไม่พอ ไม่จ่ายเงินเขาอีก ดังนั้น ขอเรียกร้อง 1. ประยุทธ์จ่ายเบี้ยเลี้ยง คฝ.ก่อน จะได้ไม่ต้องโมโหหิว จะได้ไม่ต้องยิงแก๊สน้ำตา กระสุนเข้าตาชาวบ้านเขา ทั้งนี้ตนขอถาม​ พล.อ.ประยุทธ์ว่าดูไม่ออกหรือ ว่าอะไรคืออาวุธจริง หรือปลอม ถึงจะเป็นกระสุนยาง รถฉีดน้ำ แก๊สน้ำตา ก็เป็นอาวุธจริง และคนสุดท้าย ที่เบื่อหน่ายชื่อนี้เหลือเกิน แต่ไม่พูดไม่ได้

“นายสิระ เจนจาคะ แทนที่จะมาถามว่า ผมตาบอดจริง ถามประยุทธ์ดีกว่าว่า ประยุทธ์ให้ใช้อาวุธจริง หรือปลอม ตนขอชี้แจงเรื่องประเด็นเช็คเด้งของสิระ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน แต่ก็มีกฎหมายล้างมลทิน ให้เป็น​ ส.ส.ได้ จำเอาไว้ คนดอนเมืองเขตหลักสี่ จะไม่เอาสิระแน่นอน พูดชื่อนี้ก็อดหัวเราะไม่ได้ กลายเป็นตัวตลกในสภาไปแล้ว พรรคพลังประชารัฐจะสร้างตัวตลกแบบนี้ไปอีกกี่คน นี่สภาจริง ไม่ใช่สภาโจ๊ก” ไฮโซลูกนัทกล่าว

นายธนัตถ์ กล่าวด้วยว่า ตนยืนยันว่าจะเดินหน้าฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ใช้อำนาจเกินควร ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และต้องรับผิดชอบขอจะเดินหน้าฟ้องให้ถึงที่สุด และต้องมีคำตอบ เรื่องการใช้ความรุนแรง ของ คฝ. รวมทั้งขอให้หยุดความสูญเสีย ไม่ให้มีความรุนแรงอีกต่อไป.