เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย แถลงกรณีการลงพื้นที่ภาคอีสานของพรรค พท. ในวันที่ 29-30 เม.ย.นี้ ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท. และแกนนำพรรค พท. จะลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สุรินทร์ มหาสารคาม และบุรีรัมย์ โดยจะเริ่มเวทีปราศรัยที่ อ.กันทรลักษ์ และ อ.เมือง จากนั้นไปที่ อ.อุทุมพรพิสัย เสร็จจาก จ.ศรีสะเกษ 3 เวทีในช่วงบ่าย ต่อจากนั้นในช่วงเย็นจะไปเปิดเวทีปราศรัยที่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ จากนั้นวันที่ 30 เม.ย. จะเริ่มเปิดเวทีปราศรัยที่อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม จากนั้นไปต่อที่ อ.ละหานทราย และ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์

นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ทั้งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค และบุคลากรทุกคนของพรรค เราทำงานอย่างเข้มแข็ง และเข้มข้นจนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนถึงวันลงคะแนน นี่คือสิ่งที่เราทำในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท และตั้งใจ แม้ว่าผลสำรวจจะออกมาว่าพรรค พท. ได้ที่หนึ่งแน่ๆ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้เราชะลอและลดระดับความเข้มข้นในการทำงานในพื้นที่ลง

ทางด้าน นายชุมสาย ศรียาภัย รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดพิมพ์คู่มือเลือกตั้งให้ประชาชนโดยตกหล่นเบอร์พรรคหมายเลข 27 ถึง 31 ซึ่งเป็นเบอร์ของพรรค พท. อยู่ด้วยนั้น กกต. โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ได้ออกมาให้ข่าวกับสื่อว่าไม่เป็นจริงตามข่าวว่า เรื่องแบบนี้ถ้าเป็นความจริงถือเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์การเลือกตั้ง ตั้งแต่มี กกต.มา เป็นความผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญ ลำดับหมายเลขพรรคขาดตกหล่นไปขนาดนั้นได้อย่างไร ผู้บริหารในระดับสูงสุดของ กกต. จะต้องตรวจสอบอย่างเร่งด่วนโดยละเอียดว่า มันเป็นความผิดพลาดในขั้นตอนไหน ใครต้องเป็นผู้รับผิดชอบ เป็นเรื่องเจตนา หรือเป็นประมาทเลินเล่อในระดับไหน ต้องเร่งแก้ไขให้ทันเวลา เพื่อไม่ให้การเลือกตั้งเสียหาย

แต่จากที่ดูในข่าว เลขาธิการ กกต.ให้สัมภาษณ์ว่า จะตรวจสอบคนโพสต์เรื่องนี้ย้ำถึง 3 ครั้ง และแจ้งว่า เป็นเฟคนิวส์ ตอบสื่อไม่เคลียร์ ทำให้สังคมเคลือบแคลงสงสัย จึงอยากทราบว่าการตรวจสอบ พบว่าไม่มี เป็นข่าวปลอม หรือการทำงานผิดพลาดจากกระบวนการพิมพ์หรือไม่ หากเพลตถูกต้อง เป็นไปไม่ได้ที่พิมพ์งานออกมาจะผิดพลาด นอกจากไฟล์งานผิดพลาดตั้งแต่ทำอาร์ตเวิร์ก (ออกแบบ) เว้นแต่จะมีเจตนาให้ผิดพลาดเสียเองหรือไม่ มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงใน กกต.ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงออกมาปฏิเสธแล้วจบไป ต้องตรวจสอบในเชิงลึกว่ามีข้าราชการระดับ ผอ.สำนัก ที่มีหน้าที่จัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ทำเพลตงานพิมพ์ให้หมายเลข 27-31 ตกหล่นโดยหวังผลทำลายคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทย หรือไม่

ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่น่าห่วงคือ การขนบัตรลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าจาก ศูนย์ไปรษณีย์กลางหลักสี่ ไปยัง 400 เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ การควบคุมไว้ที่ห้องมั่นคง และการขนกลับเพื่อคัดแยก กระบวนการทั้งหมดนี้เป็นอำนาจของ กกต.ในการดำเนินการ การเลือกและตั้งคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครอง ประชาชนและเจ้าหน้าที่ กกต.ซึ่งมีขั้นตอนที่ประชาชน ติดตามตรวจสอบได้ยาก และสามารถทำผิดได้ง่าย หากเกิดการทุจริตทำผิดกฎหมาย จะเกิดความเสียหายมาก

“ผมจะได้แจ้งและให้แนวทางปฏิบัติแก่ผู้สมัครและทีมงานของพรรค เตรียมจัดคนเฝ้าระวังการขนย้ายบัตรเลือกตั้ง การควบคุมดูแลรักษาความปลอดภัยบัตรเลือกตั้งที่ลงคะแนนล่วงหน้า รวมถึงการเฝ้าระวังการโกงการเลือกตั้ง ในวันเลือกตั้งที่ 14 พ.ค.นี้ อย่างใกล้ชิด ทั้งผู้สังเกตการณ์ที่มีสิทธิอยู่ในคูหาเลือกตั้ง และนอกคูหา หากมีความผิดปกติหรือมีข้อพิรุธสงสัยจะต้องบันทึกและเก็บหลักฐานไว้ให้มากที่สุด และต้องโต้แย้งคัดค้านกับเจ้าหน้าที่ในทันที หากมีผู้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นประชาชน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะมอบให้ฝ่ายกฎหมายพรรคดำเนินคดีจนถึงสิ้นสุด” นายชุมสาย กล่าว.