วันที่ 2 พ.ค. ดร.ประวัติ สุทธิประภา ผอ.โรงเรียนหอวัง ในฐานะประธานเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการมัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร กลุ่มที่ 2 เปิดเผยนโยบายด้านการจัดการศึกษาที่พรรคการเมืองควรทำในระดับมัธยมศึกษา ว่า แม้จะเป็นที่ทราบกันดีว่า การศึกษาคือเครื่องมือสําคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์” เพื่อเป็นกําลังในการพัฒนาชาติในทุกด้าน และหากทรัพยากรมนุษย์มีศักยภาพสูง ก็สามารถพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้เร็ว อย่างประเทศสิงคโปร์ ได้ทํามาแล้ว แต่ผู้ที่อาสาจะเข้าไปเป็นผู้นําประเทศไทยที่กําลังหาเสียงกับคนไทยในขณะนี้ กลับเน้นการ “แจก แจก แจก” ทุกอย่าง ยกเว้นให้ความรู้ ให้การศึกษาที่มีคุณภาพกับเยาวชน แม้จะมีนโยบายด้านการศึกษาอยู่บ้างก็ยังคิดได้แค่ “การแจก” เช่นกัน
ดร.ประวัติ กล่าวต่อว่า หัวใจสําคัญของคุณภาพการศึกษาอยู่ที่ “ครู” และบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียน ครูที่มีคุณภาพสูงจะออกแบบและจัดการเรียนรู้ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ คิดสร้างสร้างสรรค์ และพัฒนาผู้เรียนได้สอดคล้องกับปรัชญา การศึกษาของชาติได้ดี ทั้งนี้ภายใต้หลักสูตรที่เหมาะสมและการนิเทศ กํากับ สนับสนุน แนะนําของผู้บริหาร สถานศึกษา ส่วนหน่วยงานอื่นนั้นนอกจากรัฐจะจ่ายค่าตอบแทนสูงกว่าครูแล้ว ยังมีบทบาทน้อยต่อคุณภาพการศึกษาด้วย
ดร.ประวัติ กล่าวด้วยว่า การจัดการศึกษาในระดับมัธยมศึกษา มีความสําคัญต่อการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของผู้เรียน อันจะเป็นต้นทางในการประกอบอาชีพและศักยภาพในการพัฒนาประเทศในอนาคต เครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพ การจัดการมัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร กลุ่มที่ 2 ได้สํารวจความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาเฉพาะ ระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศ ตามนโยบายของพรรคการเมืองด้านการจัดการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ที่กําลังหาเสียงกันอยู่ตอนนี้ โดยผู้ตอบแบบสํารวจประกอบด้วย ผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา รองผอ.โรงเรียน รองผอ.เขตพื้นที่การศึกษา ข้าราชการบํานาญ ครู เจ้าหน้าที่และผู้ปกครอง ว่าเห็นด้วยกับนโยบายใดมาก ที่สุด 10 อันดับ ดังนี้ อันดับ 1 และ 2 ร้อยละ 92.07 ส่งเสริม ความก้าวหน้า ในวิชาชีพครู และ ส่งเสริมนัก เรียนใหม่ มีระเบียบ มีวินัย คํานึงถึงประโยชน์ของส่วนรวม / ยึดมั่นในการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันดับ 3 ร้อยละ 90.85 พัฒนาวิชาชีพครูให้มี รายได้ที่เหมาะสม อันดับ 4 และ 5 ร้อยละ 90.24 ยกเลิก โครงการที่ไม่เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน / นักเรียนได้เรียนตามความถนัดความสนใจอย่างมีคุณภาพ อันดับ 6 ร้อยละ 89.02 จัดหาบุคลากรธุรการหรือจัดหา เทคโนโลยีเพื่อปฏิบัติงานธุรการเพื่อคืนครูให้นักเรียน อันดับ 7 ร้อยละ 88.41 มีหลักประกันความปลอดภัยใน สถานศึกษา อันดับ 8 และ 9 ร้อยละ 87.8 ปรับรูปแบบการจัดสรรงบประมาณให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาจริงของสถานศึกษา / จัดหาอุปกรณ์การเรยีน ไวไฟ ที่มีประสิทธิภาพให้ทุกโรงเรียน และอันดับ 10 ร้อยละ 86.59 กําหนดแนวทางให้นักเรียนได้เรียนใกล้บ้าน
ดร.ประวัติ กล่าวท้ายที่สุดว่า ความจริงแล้วยังมีข้อมูลที่น่าสนใจหลายประเด็นจากการสํารวจความเห็นในครั้งนี้ ที่สามารถเขียนเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ เพื่อประโยชน์ในการกําหนดนโยบาย ด้านการศึกษาและใช้การศึกษาเป็นอาวุธในการเปลี่ยนแปลงประเทศ ตามที่ Nelson Mandela ได้กล่าวไว้ว่า “Education is the most powerful weapon which you can use to change the world. การศึกษา เป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดที่เราจะนํามาใช้ในการเปลี่ยนแปลงโลก