รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ​ (พปชร.)​ แจ้งว่า​มีความเคลื่อนไหวของ​แกนนำ​ และ​ ส.ส.พปชร.​ อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวันที่​ 1​ ก.ย.​ มาถึงวันที่​ 2​ ก.ย.​ โดยมีความพยายามล็อบบี้เสียงสนับสนุน​ระหว่างกลุ่มที่ไม่พอใจ​ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรี​และและรมว.กลาโหม​ กับกลุ่มที่ยังยืนยันที่สนับสนุน ​พล.อ.ประยุทธ์​ ให้ทำหน้าที่ต่อไป​ โดยมีผู้ประสาน​จากฝ่าย​ พล.อ.ประยุทธ์​ มาประสาน ส.ส.พปชร.แต่ละกลุ่มให้เข้าพบนายกฯ​ ที่ห้องรับรองตลอดทั้งวัน​ ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าที่ผ่านมานายกฯ​ ​แทบไม่เคยมานั่งพูดคุยกับ ส.ส.แบบเป็นกันเองในลักษณะนี้เลย อีกทั้งในการพูดคุยครั้งนี้ยังมีการยืนยันที่จะดูแล​ ส.ส.​ทั้งก่อนและหลัง เพื่อแลกกับการลงมติไว้วางใจให้กับ​ พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย โดย พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้ย้ำกับ​ ส.ส.ด้วยว่าขอให้มั่นใจว่าจะไม่มีการยุบสภา​ ปรับ​ ครม.​ข่าวที่เกิดขึ้นตนรู้หมดแล้ว​ อย่างไรก็ตาม​ มีรายงานว่า​ หนึ่งในกลุ่ม ส.ส.ที่เข้าพบนายกฯ​ มีกลุ่มของนายสันติที่นำ ส.ส.จาก ส.ส.นครสวรรค์​ พิจิตร​ พิษณุโลก​แม่ฮ่องสอน​ เกือบ​ 10​ คนเข้าพบนายกฯ​ ด้วย

ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ไม่พอใจ​พล.อ.ประยุทธ์​ ก็เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกัน คือ​รับปากจะดูแลทั้งก่อนและหลังลงมติ​พร้อมกับการันตีว่าจะส่งลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยหน้าในนามพรรคอีกด้วย​ แต่หากไม่มา​ จะหาผู้สมัครคนอื่นมาลงสมัครแทน

อย่างไรก็ตาม​  ปัจจุบัน​ ส.ส.หลายคนยังรอดูท่าทีจาก ​พล.อ.ประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ รองนายกรัฐมนตรี​ และหัวหน้าพรรค​ พปชร.ที่มีการเรียกประชุม​ ส.ส.เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะลงมติในวันที่​ 3​ ก.ย.นี้ก่อน​ แล้วจึงจะตัดสินใจว่าจะต้องลงมติอย่างไร​ แต่พบว่า ก่อนการประชุมในวันที่​ 3​ ก.ย.​ เริ่มมีการเช็กเสียงกันว่าหากต้องเลือกระหว่าง​ พล.อ.ประวิตร​ กับ​พล.อ.ประยุทธ์​ จะเลือกใคร​ ส.ส.ส่วนใหญ่ต่างพูดว่า​ถ้าต้องเลือก​ จะเลือ​ก​ พล.อ.ประวิตร

ทั้งนี้​ ปัจจุบัน​พรรค​ พปชร.​ มี​ ส.ส.จำนวน​ 118 เสียง​โดยมีกลุ่มการเมืองขนาดใหญ่​ อาทิ กลุ่มของ​ ร.อ.ธรรมนัส​ พรหมเผ่า​ รมช.เกษตรและสหกรณ์​ และนายวิรัช​ รัตนเศรษฐ​ ส.ส.บัญชีรายชื่อ​ และประธานวิปรัฐบาล ที่มีประมาณ​ 40​ เสียง​ กลุ่มสามมิตร​ ที่มีเกือบ​ 30 เสียง​และกลุ่มนายสันติ​ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง​ประมาณ​ 10​ เสียง​ ส่วนกลุ่มอื่นๆ​ กทม.​ ภาคใต้​ และกลุ่มอิสระอื่นๆ​ มีทั้งสนับสนุนและไม่สนับสนุน​พล.อ.ประยุทธ์