เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวชี้แจงถึงกรณีการอภิปรายเรื่องการจัดหาวัคซีนว่าล่าช้า แทงม้าตัวเดียว และมีผลประโยชน์ ว่า การจัดหาวัคซีนนั้นมีการพิจารณาเจรจากับทุกบริษัทที่ผลิตวัคซีนตั้งแต่ที่ยังไม่มีวัคซีนสำเร็จออกมา รวมถึงให้การสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนในประเทศไทยเอง ทั้งหน่วยงานของรัฐและเอกชน ปัจจุบันมีการใช้ทั้งซิโนแวค แอสตราเซเนกา ซึ่งมีการเจรจาต่อรองและจัดส่งให้ตามแผน ทั้งนี้ การระบาดตั้งแต่​ เม.ย. ต้องยอมรับว่าร้ายที่สุดคือการเข้ามาของเชื้อเดลตา ที่ดุร้ายทั้งอำนาจในการแพร่เชื้อ และมีความรุนแรงมากกว่าเชื้ออัลฟา มีการทดลองพบว่าซิโนแวค 2 เข็ม เอาไม่อยู่ แอสตราฯ 1 เข็ม ต้องรอ 2 เดือนถึงรับเข็ม 2 ไม่ทันในการสร้างภูมิไม่สูง  แต่เราต้องดำเนินการฉีดวัคซีนให้ประชาชนต่อเนื่อง ดังนั้นที่ต้องซื้อวัคซีนเพิ่ม เพราะเมื่อใดก็ตามที่ผู้ผลิตประกาศพัฒนาขยายกลุ่มที่จะได้ฉีดวัคซีนได้ เช่น เด็กอายุ 12 ปี ของไฟเซอร์ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีการเรียกร้อง หรือรับผลประโยชน์จากการจัดหาวัคซีน ตอนนี้เราคิดถึงวัคซีนปีหน้าแล้ว คิดถึงบูสเตอร์โด๊ส ซึ่งไม่ต้องห่วงเราจองซื้อไว้แล้ว กระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหารแอสตราฯ คอนเฟิร์ม 60 ล้านโด๊สเป็นอย่างต่ำ ซึ่งตัววัคซีน สถานการณ์ปีหน้าไม่เหมือนปีนี้ ขณะที่สถานบันวัคซีนแห่งชาติ ก็ออกจดหมายจองไฟเซอร์ 50 ล้านโด๊สแล้วเช่นกัน ส่วนซิโนแวคก็กำลังพัฒนาบูสเตอร์โด๊ส แบบนี้ทำไมเราไม่นั่งส่งกำลังใจให้​ ศ.นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการพัฒนาวัคซีน mRNA ให้สำเร็จ กำลังการผลิตกว่า 60 ล้านโด๊ส รวมถึงวัคซีนชนิดอื่นๆ ซึ่งจะทำให้เราไม่ต้องกังวลเรื่องวัคซีนอีก ทั้งนี้ในเรื่องของเอกสารสัญญาการจัดซื้อวัคซีน นั้นไม่อยากให้กังวลเพราะส่งอัยการทุกฉบับ ผ่าน​ ครม.ทุกฉบับ แต่จะได้หรือไม่ได้นั้นอยู่ที่ผู้ขาย เพราะตอนนี้ตลาดเป็นของผู้ขาย วันนี้สิ่งสำคัญคือชีวิตประชาชน  

“ผมได้ฟังการอภิปรายของฝ่ายค้านทุกคนอย่างตั้งใจ สิ่งที่ทุกท่านพูด เป็นประโยชน์ ไม่มีสิ่งที่ท่านปรารถนาร้ายต่อบ้านเมือง อาจะจะปรารถนาร้ายต่อผมบ้าง แต่ไม่เป็นไร บ้านเมืองสำคัญที่สุด และผมรับทุกอย่าง ส่วนที่ท่านบอกว่ามีการทุจริตนั้นก็จะตั้งกรรมการสอบ ส่วนที่ท่านให้เราปรับปรุงก็จะรับไปปรับปรุง ยืนยันว่าบุคลากรการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข และทุกสถาบันการแพทย์มุกคนทำงานจนสะกดคำว่าเหนื่อยและท้อไม่เป็นแล้ว ทุกคนอยากเอาชนะโควิด และโปรดมั่นใจว่าเขาทำได้ ระบบสาธารณสุข ยังแข็งแกร่ง ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นบุคลากรสาธารณสุข พวกเขาไม่เคยแพ้ ประเทศไทยไม่เคยแพ้ ขอให้ทุกคนร่วมมือกันสู้ แล้วเราจะผ่านวิกฤตินี้ไปได้อย่างสวยงาม” นายอนุทิน กล่าว

จากนั้นเวลา 23.11 น. นายสุชาติ ตันเจริญ ประธานที่ประชุม ได้สั่งพักการประชุม และนัดหมายให้มีการประชุมในวันที่ 3 ก.ย.เวลา 09.00 น.