เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 ก.ย. ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าร่วมรับฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 4 โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ประกาศล้มนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ไม่มีราคา อย่าไปฟังเลย”

เมื่อถามถึงกรณี นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย แฉว่ามีการแจกเงิน 5 ล้านบาทเพื่อล็อบบี้โหวต พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นการพูดที่ไม่มีสติสัมปชัญญะ โดยไม่มีหลักฐานอะไรทั้งสิ้น ซึ่งฝ่ายกฎหมายและฝ่ายเกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ปล่อยไว้ไม่ได้ นี้มาหลายครั้งแล้ว ก่อนหน้านี้ก็มีการกรีดเลือดตัวเอง ดังนั้นขอให้ไปดูพฤติกรรมแต่ละคนที่พูดออกมาและดูความน่าเชื่อถือระหว่างเขากับนายกฯ เป็นอย่างไร ไม่ว่าใครก็ตามไอ้คนที่ล้มนายกฯ เขาต้องการล้มอยู่แล้ว แต่ต้องดูว่าตัวนายกฯกับตัวเขาน่าเชื่อถือแค่ไหนและมีราคาหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการอภิปรายในครั้งนี้ว่า ไม่มีอะไรแตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา เพราะข้อมูลเหมือนเดิม และเอาตัวเลขย้อนหลังมา ซึ่งสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้วในเรื่องโควิด คนป่วย คนเจ็บ แน่นอนว่าในการทำงานย่อมมีปัญหาอยู่แล้ว เราก็พยายามแก้โดยพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็ช่วยกันดูแลประชาชน เพราะเป็นหน้าที่ของ ส.ส. 

เมื่อถามว่า มีการแก้ปัญหารอยร้าวเรื่องการล้มนายกฯ เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับว่าใครทำ ทำจริงหรือไม่ และเชื่อมโยงกับใคร ส่วนแนวทางการโหวตนั้น ตนไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องที่ส.ส.โหวตเอง อย่างไรก็ตาม ได้พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาโดยตลอดทุกวัน 

“ทุกคนเป็นคนตั้งเองไม่ใช่เหรอว่า 3 ป. ไม่มีใครมาทำร้ายผมได้ ทุกคนอาจจะไม่รู้และทุกคนอาจจะไม่รักคน รักเพื่อน รักคนอื่น เหมือนผมรักกัน 3 คน ผมร่วมเป็นร่วมตายกันมา ชายแดนท่ามกลางสนามรบผมก็เคยอยู่ร่วมกัน และท่านก็เป็นผู้บังคับบัญชาผมตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามารับราชการ อยู่บ้านเดียวกัน กินนอนด้วยกัน สั่งสอนและฝึกอบรมกันจนกระทั่งโตขึ้นมา ยังคบและเคารพกันอยู่ ทุกอย่างที่ผมเป็นวันนี้ได้ เพราะพี่ทั้งสองคนได้สั่งสอนผมมาและผมจำได้ว่า ไม่เคยที่พี่ทั้งสองจะมาสอนให้ผมทุจริต โกง ซึ่งไม่มี” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

เมื่อถามถึงการประชุม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการต่อสายเข้าคุยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ต้องโทรฯคุย ซึ่งตนอาจไปเยี่ยมก็ได้ ส่วนที่มีการมองว่าที่ผ่านมาตนเองเว้นระยะห่างจาก ส.ส. จึงอาจทำให้เกิดความไม่เข้าใจทั้งนั้น ก็อาจเป็นไปได้ เพราะตนทำงานเยอะต้องจึงต้องใช้เวลาในการทำงาน แต่ก็มีการพูดคุยกับหัวหน้าพรรค และหัวหน้าพรรคไปพูดคุยร่วมกับสมาชิก ซึ่งอาจมีปัญหาตรงนั้น แต่ตนก็พูดคุยกับ ส.ส.ที่มาพบหลายสิบคนเมื่อวาน ซึ่งเป็นการพบกันอย่างเปิดเผยไม่ใช่ไปแอบในส้วม ตนทำอะไรก็ตามจะมีบุคคลที่สามอยู่เสมอในการทำงาน เพื่อให้เห็นถึงความโปร่งใสของตน เพราะถ้าทำอะไรไม่มีพยานก็ลำบาก ไปอ้างไปพูดจาอะไรก็ลำบาก อย่างไรก็ตาม ก็จะหาโอกาสพบ ส.ส.มากขึ้น โดยขอไปปรับเวลาการทำงานของตนก่อน

เมื่อถามว่ามีกระบวนการจากคนต่างประเทศเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่รู้ เอาในประเทศก่อน” 

เมื่อถามว่าขณะนี้มีความคลางแคลงใจกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมไม่เคยมีอะไรกับเขา เพราะผมเป็นคนเอาเขาเข้ามาทำงานเอง แล้วจะไปมีอะไรกับเขา ผู้ใหญ่จะไปมีปัญหากับเด็กได้อย่างไร ไม่ได้พูดถึงเฉพาะรายนี้” แต่ถ้าเด็กมีปัญหาเดี๋ยวแก้เอง 

ส่วนที่ ร.อ.ธรรมนัส พูดถึงไอ้ห้อยไอ้โหนนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กว่าวว่า ใคร ไม่เห็นมีใครมาโหนตนเลย และไม่ชอบคนโหนอยู่แล้ว คนที่ชอบโหนตั้งแต่เด็กมาแล้ว ใครที่เข้ามาแล้ว “ใช่ครับพี่ ดีครับผม เหมาะสมครับท่าน” ไปไกลๆ

เมื่อถามว่า จะต้องมีแผนเผชิญเหตุหรือไม่หากมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นในวันโหวตพรุ่งนี้ (4 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แม้จะมีการล้มนายกฯ ก็ไปดูกฎหมายมาตรา 167 และ 168 ดังนั้นตนไม่รู้จะมีการวางแผนอย่างนั้นอย่างนู้นทำได้หรือไม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนไม่หวั่นไหวด้วยการทำงานของตน แม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง ทั้งที่สำเร็จและไม่สำเร็จ แต่ในสิ่งที่ไม่สำเร็จมักมีการเอามาพูดและโจมตีกัน ส่วนการออกเสียงโหวตในวันพรุ่งนี้จะผ่านหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องของสภา เป็นเรื่องของ ส.ส. และเป็นเรื่องความเชื่อถือเชื่อมั่น 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ได้พบปะ ส.ส.และไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกัน ซึ่งทุกคนก็ยืนยันว่าจะอยู่กับนายกฯ เพราะเป็นคนเลือกนายกฯ มาอยู่ในรายชื่อ จึงให้เกียรติซึ่งกันและกัน ถึงใครดีก็ดีใครไม่ดีก็ค่อยว่ากัน อย่าไปหวั่นไหวเรื่องที่คนนั้นคนนี้พูด ตนไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายในช่วงนี้ในการอภิปราย 

“ในเรื่องความสัมพันธ์ 3 ป. จะตีมาตีผมกันอย่างไร ไม่มีแตกกันอยู่แล้ว รักกัน เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน จำคำพูดผมไว้” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่ามีการเสี้ยมให้ 3 ป. แตกกัน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีการเสี้ยมมานานแล้ว ทุกฝ่ายเสี้ยมหมด 

เมื่อถามว่า วันนี้เบื่อการเมืองหรือไม่ที่ต้องเจอ สถานการณ์หนักทุกเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถึงจะเบื่ออย่างไรก็ต้องทำให้ดีที่สุดเพราะนึกถึงประชาชนเป็นหลัก ประเทศชาติต้องเดินไปข้างหน้า การปฏิรูปต่างๆทุกอย่างก็ทำ ซึ่งในเรื่องการปฏิรูปการเมืองก็ต้องแก้ที่ตัวพวกเรา ถ้ายังเป็นเพื่อนกันอยู่แบบนี้หาวิธีการที่จะล้มจะเลื่อยขาก็ถือว่ายังไม่เริ่มปฏิรูป ส่วนจะมั่นใจว่าเดินต่อไปอย่างเข้มแข็งหรือไม่หลังจากนี้นั้น หากประชาชนยังต้องการตนก็จะเดิน

เมื่อถามว่า จากคำสัมภาษณ์ของนายกฯ และร.อ.ธรรมนัสก่อนหน้านี้ที่ดุดันและเชือดเฉือนกัน เหมือนจะมีการแก้แค้นเกิดขึ้นหลังจากนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า “จะแก้แค้นกันเรื่องอะไร ก็เป็นเรื่องของเขา ในส่วนผมก็เป็นเรื่องของผม อย่าให้ผมต้องทะเลาะกัน ให้เป็นเรื่องของข้อเท็จจริง”

เมื่อถามต่อว่า แสดงว่าเด็กจะต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า “หรือผู้ใหญ่ต้องเชื่อฟังเด็ก ก็ต้องรับฟังกันและกัน แต่ผู้ใหญ่ก็คือผู้ใหญ่ แล้วผมเป็นใคร แล้วนายกฯ ต้องไปฟังใครที่มันไม่ใช่ ถ้าเรื่องจริงผมฟังแต่ถ้าเรื่องผลประโยชน์ผมไม่ฟัง แต่ไม่เห็นมีใครมาพูดกับผมในเรื่องนี้ และมีการปล่อยข่าวมา ซึ่งตัวเลขที่ว่านั้นผมเคยได้ยินมาก่อนและจะนำมาตีอีกฝ่ายด้วย”

ทั้งนี้ ในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้ำว่า ข่าวต่างๆที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้เสียสมาธิเพราะหากเสียสมาธิคงเสียไปนานแล้ว อยู่มา 6-7 ปีแล้ว