เอ็มจี เริ่มทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เมื่อปี 2562 ด้วยโมเดล NEW MG ZS EV และทยอยส่งรุ่นอื่นๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันแบรนด์ เอ็มจี จำหน่ายรถไฟฟ้ามากถึง 5 รุ่น ได้แก่ NEW MG ZS EV, NEW MG EP, NEW MG4 ELECTRIC และในปีนี้ (พ.ศ. 2566) ได้เปิดตัวรถไฟฟ้า 2 รุ่น ด้วยกัน ได้แก่ NEW MG ES และ NEW MG MAXUS 9 โดยแต่ละรุ่นต่างมีบุคลิก และจุดเด่นที่แตกต่างกันไป เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ได้มากที่สุด

จนถึงวันนี้ เอ็มจี ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าให้กับลูกค้าคนไทยแล้วรวมทุกรุ่นกว่า 10,000 คัน ยังคงครองตำแหน่งผู้นำรถไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี บทบาท “ผู้นำ” ไม่ได้มาจากมิติของยอดขายเท่านั้น แต่มาจากทั้งในแง่ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยีใหม่ๆ ล้ำๆ ถูกนำมาให้คนไทยได้ใช้มากขึ้น เครือข่ายผู้จำหน่าย และศูนย์บริการที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ

เอ็มจีเป็นแบรนด์ที่มีสถานีชาร์จเป็นของตัวเอง ที่รู้จักกันดีภายใต้ชื่อ MG SUPER CHARGE ให้บริการมากถึง 140 จุดทั่วประเทศ จึงกลายเป็นแบรนด์ผู้จำหน่ายรถไฟฟ้าที่เอาจริงเอาจังในด้านสถานีชาร์จมากที่สุด ล่าสุดจ่อเตรียมพัฒนาพื้นที่ ภายในโรงงาน เอสเอไอซี มอเตอร์ อีกกว่า 75 ไร่ ให้เป็นพื้นที่ NEW ENERGY INDUSTRIAL PARK สำหรับพัฒนาชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ร่วมกับพาร์ทเนอร์ และ โรงงานผลิตแบตเตอรี่ เพื่อรองรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในอนาคต ด้วยงบลงทุนมากกว่า 500 ล้านบาท ขับเคลื่อน EV ECOSYSTEM เมืองไทยให้แข็งแกร่งและยั่งยืน

สำหรับรถไฟฟ้าแบรนด์ เอ็มจี หลายรุ่นถูกตั้งราคาขายไม่เกิน 1 ล้านบาท จึงกลายเป็นแบรนด์ที่ส่งเสริมให้คนไทยเข้าถึง และเป็นเจ้าของรถไฟฟ้าได้ง่ายมากขึ้น

NEW MG ZS EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของ เอ็มจี ที่เปรียบเสมือนผู้สร้างประสบการณ์การขับขี่รถไฟฟ้าให้กับคนไทยที่จะทำให้ชีวิต “ง่าย” ขึ้น ตามคอนเซ็ปต์ TRULY EASY ดีไซน์ และฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ จึงถูกออกแบบให้ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน สะดวกสบาย ด้านสมรรถนะการขับขี่ และเทคโนโลยีความปลอดภัยเพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน อีกทั้งด้วยความเป็นรถเอสยูวี จึงตอบโจทย์การใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ราคาเริ่มต้น 949,000 บาท*

NEW MG EP รถไฟฟ้าดีไซน์รถสเตชันวากอนรุ่นแรกของ เอ็มจี ที่ส่งมอบความคุ้มค่า คุ้มราคา ลดภาระในเรื่องของการบำรุงรักษาด้วยค่าบำรุงรักษาตามระยะทางตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กม. รวมค่าแรงยังไม่เกิน 8,000 บาท และมักจะถูกเลือกให้เป็นรถไฟฟ้า สำหรับใช้งานภายในองค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชน คุ้มค่า ด้วยราคาเพียง 771,000 บาท และครองตำแหน่งรถไฟฟ้าเอ็มจีขวัญใจคนไทยเป็นที่เรียบร้อย

NEW MG4 ELECTRIC รถไฟฟ้าที่พัฒนาเพื่อการขับขี่ที่สนุกสนาน จึงอัดแน่นไปด้วยนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้ายุคใหม่ทั้งคัน ตั้งแต่แพลตฟอร์ม แบตเตอรี่ มอเตอร์ ระบบขับเคลื่อน ไปจนถึงเทคโนโลยีต่าง ๆ และเป็นการแนะนำรถไฟฟ้าที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลังในราคาไม่เกิน 1 ล้าน สู่ตลาดเมืองไทยเป็นครั้งแรก อีกทั้งมีการนำเสนอแพลตฟอร์มใหม่ NEBULA PURE ELECTRIC ที่คิดค้น และพัฒนาขึ้นเพื่อใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า 100% สามารถนำไปปรับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้หลากหลายขนาด และรองรับแบตเตอรี่หลากหลายความจุ และเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERY แบตเตอรี่ที่อยู่ใน NEW MG4 ELECTIC จึงมีขนาดเล็กแต่ให้สมรรถนะสูง ราคาเริ่มต้น 869,000 บาท

NEW MG ES รถสเตชันวากอนไฟฟ้า 100% รุ่นที่ 2 ของ เอ็มจี โดดเด่นด้วยความอเนกประสงค์ ดีไซน์การออกแบบพัฒนาให้มีความทันสมัย ผสมผสานกับความพรีเมียมอย่างลงตัว พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ครบครันด้วยฟังก์ชันที่ให้ความสะดวกสบาย ตามคอนเซ็ปต์ “COMFORTABLE” ตอบสนองได้มากขึ้น เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ราคาจำหน่าย 959,000 บาท

อีกรุ่นที่ถือเป็น บิ๊ก เซอร์ไพรส์ แห่งปี 2566 และผลักดัน เอ็มจี เข้าสู่ตลาด LUXURY CAR กับ NEW MG MAXUS 9 รถลักชัวรี่ e-MPV ไฟฟ้า100% แบบ 7 ที่นั่ง ตอกย้ำภาพผู้นำและผู้บุกเบิกตลาดอีวีในไทยอีกครั้งกับการเป็น “เจ้าแรก” ที่เปิดน่านน้ำใหม่ด้วยรถไฟฟ้าแบบ 7 ที่นั่ง เหนือกว่าด้วยฟังก์ชั่นและฟีเจอร์ล้ำสมัย นำเสนอความเป็น “ที่สุด” ทั้งงานดีไซน์ที่หรูหรา พรีเมียมด้วยวัสดุที่เลือกใช้ การออกแบบที่คำนึงถึงความสะดวกสบายในทุกตำแหน่งที่นั่ง รวมถึงเทคโนโลยีที่ความปลอดภัยที่ใส่มารอบคัน เบาะแถวที่สองแบบ Captain Seat ปรับด้วยไฟฟ้า 12 ทิศทาง ควบคุมและสั่งการผ่านหน้าจอทัชสกรีนส่วนตัว ที่พิงศีรษะปรับด้วยไฟฟ้า  ที่พักน่องปรับเอนได้อัตโนมัติ มีระบบบันทึก ระบบนวด และสามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ตามความต้องการ พร้อมโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้ ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 2.499 ล้านบาท

สำหรับลูกค้าที่สนใจรถยนต์ไฟฟ้าของ เอ็มจี ทุกรุ่น สามารถทดลองขับขี่ได้ที่โชว์รูมเอ็มจี ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วประเทศ (EV Authorized Dealer) หรือจองผ่านช่องทางเว็บไซต์ https://onlinebooking.mgcars.com/ และแอพพลิเคชัน MG THAILAND