จากกรณี น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ ร้องสื่อให้ช่วยประสานฝ่ายงานเกี่ยวข้องตรวจสอบเรื่องของ น.ส.บี (นามสมมุติ) บุตรสาววัย 19 ปี ที่สอบติดคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังได้ แต่หลังจากไปตรวจร่างกายยัง รพ. แล้วปรากฏว่า แพทย์เจอสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ ทำให้ไม่สามารถออกใบรับรองการตรวจสอบสุขภาพได้ ทั้งที่ น.ส.บี ไม่เคยไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดแต่อย่างใด เหตุการณ์ดังกล่าวอาจทำให้ น.ส.บี มีสิทธิจะพลาดการเรียนต่อเนื่องจากต้องไปมอบตัววันที่ 30 พ.ค. 66 นี้แล้ว เบื้องต้นเชื่อว่า สารเมทแอมเฟตามีน น่าจะมาจากการทานอาหารเสริมผิวขาวยี่ห้อหนึ่งเข้าไป และเชื่อว่าน่าจะเป็นของปลอม ซึ่งลูกสาวสั่งซื้อมากินจากแอปพลิเคชัน TikTok เพราะไม่เคยกินของยี่ห้ออื่น ตามที่ปรากฏเหตุการณ์ไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 29 พ.ค. ล่าสุดวันนี้ผลการตรวจออกมา ปรากฏว่าไม่พบสารเสพติดใดๆ ในร่างกาย น.ส.บี ทำให้ทั้งพ่อและน้องโล่งอก โดยพ่อของน้องเอ กล่าวภายหลังฟังผลตรวจว่า ผลที่ออกมาตรงกับพฤติกรรมของลูก และครอบครัวของตน เพราะลูกไปไหนมาไหนกับครอบครัวตลอดเวลา แม้แต่การทำงานเสริมยังต้องให้ไปทำงานที่เดียวกับแม่ นอนกับแม่ แทบจะเป็นคนเดียวกัน โอกาสที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดยังมองไม่ออก ตอนนี้ถือว่าโล่งอก โดยเฉพาะผลที่ได้ในวันนี้แพทย์ระบุว่า สามารถนำเอาไปอ้างอิงกับการสถานศึกษาได้ทันที ไม่ต้องไปตรวจซ้ำอีก เพราะตรวจอย่างละเอียดแล้ว

อดเรียนเภสัชฯ! นศ.สาวกินยาผิวขาวดันเจอสารยาบ้า ‘บ.อาหารเสริม’ เชื่อได้ของปลอม

ส่วนผลการตรวจผลิตภัณฑ์อาหารเสริมจะออกมาอย่างไร ทางเราก็พร้อมจะรับฟัง แล้วมาหาที่มาด้วยกันว่าเกิดอะไรขึ้น หากไม่พบสารแอมเฟตามีน ในอาหารเสริม

ขณะที่น้องเอ กล่าวอย่างดีใจว่า ดีใจมาก ที่ผลตรวจเลือดเป็นลบ และขอยืนยันว่า ตนไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่กินยามั่ว แม้แต่ยาแก้ปวดตอนปวดท้องเมนส์ ก็ยังไม่กินยาแก้ปวด ส่วนการพบสารแอมเฟตามีนที่พบ ตนก็ยังงงว่าเกิดอะไรขึ้น