เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายนริศ ขำนุรักษ์ รมช.มหาดไทย และอดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในพรรคประชาธิปัตย์ว่า ในพรรคคลื่นลมสงบ ไม่มีอะไร คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดรักษาการได้มีมติว่าจะให้มีการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีการรับรอง ส.ส.ใหม่แล้ว เพราะ ส.ส. 25 คนของพรรคเป็นองค์ประชุมที่มีน้ำหนักคะแนนเสียงคิดเป็น 70% ถือว่าเป็นส่วนสำคัญ จึงต้องรอส่วนนั้นก่อน

เมื่อถามว่า มีความคาดหวังกับพรรคประชาธิปัตย์ในยุคนี้อย่างไร นายนริศ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องมีการทบทวน ทั้งการเลือกตั้งที่ผ่านมา และแนวทางทั้งหมด เพราะครั้งนี้เราได้ ส.ส.น้อยมาก

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะถือเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่หรือไม่ นายนริศ กล่าวว่า ในคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการและผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงของพรรคทั้งหมดคงจะได้ทบทวนเรื่องนี้และปรับพอสมควร สำหรับการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคครั้งนี้ ตนคิดว่าจะมีความจริงจัง

เมื่อถามว่า จะมีโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ขึ้นมาบริหารพรรคหรือไม่ นายนริศ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีการผสมผสานกันอยู่แล้ว ระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่าของพรรค ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประชาธิปัตย์ เป็นส่วนผสมที่ค่อนข้างลงตัว ถ้าเป็นไปได้ในครั้งนี้ ตนอยากให้ส่วนผสมเป็นคนรุ่นใหม่มีจำนวนมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมามีการพูดถึงเรื่องการปฏิรูปพรรคในหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีการทำอย่างจริงจัง คิดว่าครั้งนี้ควรจะต้องทำอย่างจริงจังและให้เกิดเป็นรูปธรรมมากขึ้นหรือไม่ นายนริศ กล่าวว่า คะแนนที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เท่านี้ ต้องมีการปฏิรูปพรรคอย่างจริงจัง และเท่าที่ตนได้ฟังจากผู้ใหญ่ในพรรค เห็นว่าจะมีการทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง

เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีดีลลับอะไรในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล ใช่หรือไม่ นายนริศ กล่าวว่า ไม่มีดีลดังกล่าว เพราะพรรคประชาธิปัตย์ต้องถือมติของที่ประชุมพรรคเป็นสำคัญ ตอนนี้ยังประชุมพรรคไม่ได้ จึงยังไม่มีการพูดถึงเรื่องดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายนริศยังให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมรับมือฤดูฝน ว่าขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ได้มีการแจ้งเตือนประชาชน ว่ามีฝนตกมากขึ้น มีคลื่นลมแรงทั้งฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย จึงถือเป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะต้องมีการแจ้งเตือนประชาชนให้มีความระมัดระวัง โดยปภ.ได้แจ้งเตือนหน่วยงานในภูมิภาคแล้วว่าให้มีการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชน เพราะเราเข้าสู่ฤดูฝนตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งในสัปดาห์นี้มีทั้งลม คลื่นลม และฝนตก ขณะที่งบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนนั้นยังใช้งบประมาณปกติได้ และยังไม่มีการใช้งบกลาง รวมถึงยังอยู่ในขีดความสามารถที่ปภ.สามารถดูแลได้ ขณะเดียวกันเรามีเครือข่ายทั่วประเทศ ทั้งภาคประชาชนและเอกชนที่มีกำลังมากกว่าภาครัฐ เราได้เตรียมความพร้อมว่าหากเกิดภัยพิบัติ จะสามารถนำผู้ประสบภัยเข้าสู่โรงพยาบาลได้ภายในไม่กี่นาที