กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ขึ้นมาทันทีหลังล่าสุดมีการวิจารณ์หนักเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เป็นวัคซีนเข็มที่ 3 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าเพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่ประชุมบางส่วนมีความเห็นว่า “ในขณะนี้ ถ้าเอามาฉีดกลุ่ม 3 แสดงยอมรับว่า Sinovac (วัคซีนหลักที่ไทยใช้อยู่)ไม่มีผลในการป้องกัน แล้วจะแก้ตัวยากมากขึ้น” จนทำให้ในโลกออนไลน์มีการติดแฮชแท็ก #ฉีดPfizerให้บุคลากรการแพทย์ พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ และมีอาจารย์หมอและบุคคลในแวดวงการแพทย์ออกมาเรียกร้องว่า ควรฉีดเข็ม3ให้บุคลากรทางการแพทย์ ด้านนายอนุทิน ก็ยอมรับเอกสารหลุดมาจริง แต่เป็นความเห็นเท่านั้น ทำให้คนยิ่งวิจารณ์ประเด็นอย่างหนัก

ล่าสุดนักแสดงและผู้ประกาศข่าวคนดัง หนุ่ม-กรรชัย เผยขณะอ่านข่าวดังกล่าวในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์บางช่วงบางตอนว่า “ที่ประชุมมีการคอมเมนต์หลายข้อว่า เด็กต้องฉีด ผู้สูงอายุต้องฉีด และบุคคลด่านหน้าอย่างบุคลากรการแพทย์ด้วย ที่ประชุมมีการคอมเมนต์หลายข้อ แต่ข้อที่ 10 โน้ตไว้และพิมพ์ไว้ว่า ในขณะนี้ ถ้าเอามาฉีดกลุ่ม 3 แสดงยอมรับว่า Sinovac (วัคซีนหลักที่ไทยใช้อยู่) ไม่มีผลในการป้องกัน แล้วจะแก้ตัวยากมากขึ้น ทำให้สังคมตั้งประเด็น รวมทั้งอาจารย์หมอออกมาจำนวนมาก แม้เรื่องนี้ยังไม่ผ่านออกมา แต่แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องทางความคิดแล้ว ตรงนั้นมีทั้งคุณหมอหลายท่านที่ร่วมประชุมแล้วมีข้อนี้ออกมาได้อย่างไร ประชาชน สังคมและพี่น้องบุคลากรทางการแพทย์ของท่านเองที่สงสัย”

“แค่นี้ก็แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องทางความคิดเห็น แล้วทำไมมีข้อนี้ออกมา ทุกคนสงสัยหมด ฟังแล้วเจ็บปวด ถ้าเป็นชาวบ้านคงบอกว่าเอาอะไรคิด บุคลากรทางการแพทย์สำคัญมาก แต่ละคนทุ่มเทสู้กับโควิดอยู่แต่ละสายพันธุ์กลายพันธุ์ คุณต้องรู้ว่าซิโนแวค มันไม่กันติดอยู่แล้ว อย่างที่คุยๆกันมาแต่แรก แต่กันตายได้ แต่สายพันธุ์เปลี่ยนต้องมีวัคซีนที่เอาอยู่มากกว่านี้ แต่กลับมาบอกแบบนี้ หลุดออกมาสังคมก็รับไม่ได้ แพทยสภายังรับไม่ได้ สุดท้ายเราต้องฝากชีวิตไว้กับบุคลากรทางการแพทย์ เขาเป็นอะไรขึ้นมาคนข้างหลังยิ่งลำบาก ถ้ามีของดีของเอาอยู่มาต้องให้เขาก่อนเลย หมอจะได้ช่วยเราได้ ไม่รู้จะพูดคำไหน”

“คงต้องเรียกว่าเป็นประเด็นช็อกสังคม ทำไมมีข้อ 10 ออกมาในการโน้ตออกมา โชคดีที่หลุดออกมาก่อน เท่าที่ทราบ อ.ทวี เป็นหนึ่งใน 7-8 คนที่ซูมเข้าไป ไม่ได้อยู่ในห้องประชุม อ.ทวี สนับสนุนเรื่องเด็กเป็นหลัก แต่ไม่รู้ใครเสนอข้อ 10 ขึ้นมา แต่แค่คิดก็ไม่ควรแล้ว เพราะมันน่าละอาย เป็นความคิดที่น่าละอาย ที่จะไม่ฉีดเข็มที่ 3 ให้บุคลากรทางการแพทย์ เขายังเรียกร้องให้มากกว่านี้ เห็นแต่ละคนทำงานเหนื่อยเป็นลม มุมกลับกันกลับมีแบบนี้ออกมาจากการประชุม เอาง่ายๆหมอตายเราก็ตาย”

ขอขอบคุณภาพประกอบจากรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์