รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอ ครม.พิจารณา โครงการบ้านล้านหลังระยะสอง ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและผู้ที่ยังเข้าไม่ถึงสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ให้สามารถมีบ้านเป็นของตัวเองได้ในช่วงวิกฤตโควิด อีกทั้งยังเป็นการช่วยกระตุ้นกำลังซื้อ และสนับสนุนการฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

สำหรับแนวทางการจัดทำโครงการบ้านล้านหลังระยะสอง มีวัตถุประสงค์เพื่อปล่อยสินเชื่อให้มีผู้รายได้น้อยได้ซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาไม่เกิน 1.2 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่ บ้านมือสอง หรือทรัพย์เอ็นพีเอ ครอบคลุมทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ เป็นต้น โดยคิดดอกเบี้ยต่ำ 4 ปีแรก เพียง 1.99% ต่อปี  ซึ่งถูกว่าโครงการบ้านล้านหลังระยะแรกที่คิดดอกเบี้ย 3%  และให้ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 40 ปี โดยหากกู้เต็ม 1.2 ล้านบาท จะผ่อนเริ่มต้นเพียงเดือนละ 5,000 บาท นานถึง 7 ปี แต่หากกู้น้อยกว่านั้นเงินงวดก็จะถูกลงอีก ซึ่งจะช่วยให้ผู้กู้สามารถวางแผนการชำระหนี้ในระยะยาว และบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ โครงการนี้จะมีการผ่อนปรนเงื่อนไขการขอสินเชื่อให้กับผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อ ด้วยการคำนวณความสามารถในการผ่อนชำระให้กับผู้กู้ เพื่อให้มีโอกาสรับวงเงินกู้สูงขึ้น รวมถึงประชาชนที่ประกอบอาชีพอิสระ หากมีหลักฐานการมีรายได้ ก็สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ ดังนั้นจึงเชื่อว่าจะมีประชาชนให้ความสนใจและเข้าขอสินเชื่อเป็นจำนวนมาก

“คลังคาดว่าหลังจาก ครม.เห็นชอบ ธอส.จะเปิดให้จองสิทธิ์พร้อมกันผ่านทางแอพลิเคชัน GHB ALL เพื่อเพิ่มความสะดวกไม่ต้องการเดินทาง และลดความแออัดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด ซึ่งหลังจากจองสิทธิและได้คิวนัดแล้วจึงค่อยนำหลักฐานต่างๆ พร้อมรหัสที่ได้รับจากการจองสิทธิ์มายื่นขอสินเชื่อที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศต่อไปอีกครั้ง”