เมื่อวันที่ 7 ก.ย. นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า เปิดเผยว่า ปัจจัยสำคัญที่ขาดไม่ได้ของวันนี้ คือความเข้าใจเรื่อง เทคโนโลยี ทั้งในมุมลึกและกว้าง จนสามารถนำมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนา แก้ปัญหาประเทศ และช่วยเหลือประชาชนได้จริง พรรคกล้า มองว่า เทคโนโลยีคือกุญแจสำคัญสู่การปลดล็อกปมปัญหาของประเทศ โดยขอยก 3 ประเด็นหลักคือ 1.เทคโนโลยีที่จะมาสร้างระบบราชการให้ทุจริตยากขึ้น โปร่งใสตรวจสอบได้ 2.ทำให้เรามีระบบการเงินที่เข้าถึงได้ด้วยดอกเบี้ยที่เป็นธรรม 3.เทคโนโลยีที่จะช่วยให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิต และขายตรงถึงผู้บริโภคได้ ด้วยความมุ่งมั่นที่ตนตั้งใจสร้างพรรคการเมืองแห่งแพลตฟอร์ม นำเทคโนโลยีเข้ามาแก้ไขปัญหาหลักของประชาชน ตนจึงเชิญนายสมคิด จิรานันตรัตน์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ settrade.com ทำระบบหลักทรัพย์ในโลกออนไลน์ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารกรุงไทย ผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ ของคนไทย ไม่จะเป็นพร้อมเพย์ สู่แอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” และ K-Plus ผู้พลิกโฉมครั้งใหญ่ให้ธนาคารกสิกรไทย  

หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวอีกว่า นายสมคิดจะเข้ามาเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีรองรับโลกดิจิทัล ช่วยร่างนโยบายให้เป็นกระบวนการทำงานสำคัญที่ตอบโจทย์ทันโลก ทันสมัย และที่สำคัญคือ ทำได้จริง นอกจากนี้ นายสมคิดถือเป็นคีย์แมนสำคัญที่จะมาทำเรื่องนี้ให้เป็นจริง เพราะเป็นผู้ที่เข้าใจปัญหาและได้ลองทำจริงจนมั่นใจว่าเทคโนโลยีจะเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาของประเทศไทยได้ ทั้งระบบเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อต่อการลงทุน และกับดักระบบราชการที่ตามโลกไม่ทัน เจาะลึกลงไปก็จะพบความวิกฤตระบบการศึกษา ข้อบกพร่องระบบสาธารณสุข ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกมากมาย

“หากเรายังอยู่กันแบบเดิมการเมือง ก็เล่นกันไปแบบเดิมๆ คนไทยจะลำบาก ประเทศไทยจะไม่มีที่ยืน เราจะไม่มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจของโลก คุณภาพชีวิตคนไทยจะมีแต่แย่ลง ซึ่งตนมั่นใจว่า ชุดนโยบายของ พรรคกล้า แตกต่างจากทุกนโยบายของพรรคการเมืองที่เคยมีมาก่อน ตนดีใจและภูมิใจที่พรรคกล้ามาถึงวันที่เราได้รวบรวมคนเก่ง คนมีของ ที่มีความตั้งใจ ความรู้ และความกล้ามาช่วยกันสร้างโอกาสใหม่ให้กับประเทศไทย เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทย”นายกรณ์ กล่าว

ด้านนายสมคิด กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยคิดเล่นการเมือง แต่ปัจจุบัน ปัญหาบ้านเมืองมีมากเกิน และอนาคตที่จะเปลี่ยนไปในโลกใบที่ไม่เหมือนเดิม ทำให้ตนไม่ลังเลที่จะขอมีส่วนช่วยคิด ช่วยทำ ในหลายเรื่องที่กำลังคิดและทำอยู่ เมื่อพรรคกล้าให้ความสำคัญกับเรื่องเทคโนโลยีมาก และหัวหน้าพรรคกล้า ได้ชวนให้ออกความเห็นหลายครั้ง จนมีความคิดที่ตรงกันว่า เทคโนโลยีที่ออกแบบมาดี ใช้ให้เหมาะ มีโอกาสอย่างมากที่จะแก้ปัญหาใหญ่ๆ ของประเทศไทยได้ เตรียมความพร้อมให้รุ่นลูกรุ่นหลาน สร้างโอกาสให้คนตัวเล็ก รวมถึงสตาร์ทอัพ และเกษตรกรด้วย  อย่างไรก็ตาม เขามองว่าการจะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จจะต้องเกิดความร่วมมือ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน  บางครั้งเรื่องที่จะทำได้ กลับทำไม่ได้ เสียโอกาสไปมากมาย เพราะเราขาดการทำความเข้าใจกัน แม้ประเทศไทยจะไม่ได้มีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยี เมื่อเทียบกับประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศจีน หรือสิงคโปร์ แต่เรามีคนเก่งๆมากพอ และตนได้เคยทำงานร่วมและสัมผัสคนเก่งเหล่านี้มาแล้วมากมาย โดยเฉพาะคนไทยเก่งๆ ที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ ผมจึงมีความเชื่อว่าประเทศเปลี่ยนได้ หากเราร่วมมือกัน พร้อมใจกัน

“และวันนี้พรรคกล้าได้เสนอโอกาสให้ผมเสนอความคิดได้อย่างเต็มที่เพื่อให้นโยบายพรรคกล้าตอบโจทย์ของอนาคตประเทศได้ดีที่สุด และสามารถปฏิบัติได้ ซึ่งผมมีความเชื่อว่าสิ่งที่เสนอปฏิบัติได้จริงเพราะเชื่อในความสามารถของคนไทยที่ยังไม่ได้ใช้อย่างเต็มที่ และทุกเรื่องที่เสนอไม่ได้เป็นเรื่องเลื่อนลอย เพราะได้คิดเรื่องเหล่านี้มาเป็นปีแล้ว ได้เห็นภาพที่ปะติดปะต่อได้ชัดเจน ขาดแต่ความเชื่อร่วมกัน ความร่วมมือกันที่จะสร้างสิ่งใหม่ๆขึ้นมาเปลี่ยนประเทศ เรื่องนี้จะสำเร็จได้ ภาครัฐต้องมีวิสัยทัศน์ ทุ่มสุดตัว และไม่กลัวในการที่จะส่งเสริมและร่วมมือสนับสนุนเอกชน เราต้องพร้อมร่วมมือ ร่วมใจ และสร้างพลังใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้มีความสดใสและมีความหวังที่จะเชิดหน้า ชูตาในสังคมโลกอนาคตได้ครับ” นายสมคิด กล่าว

ทั้งนี้ พรรคกล้ายังมีทีมเทค ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ อย่าง ส้ม-ภรณี วัฒนโชติ CEO และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Startup ฟินแก๊ส ปัจจุบันเป็น รองโฆษกพรรคกล้า และ ยศ เลิศภิญโญภาพ นักออกแบบระบบ IT ที่ได้เปิดประสบการณ์ สร้างความคุ้นเคยกับโลกดิจิทัลให้กับประชาชน โดยการนำคนไทยให้รู้จักกับ NFT ซึ่งถือเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ในรูปแบบใหม่ ประเดิมโครงการแรกไปแล้วคือ Mission Pawsible ที่มีกระแสตอบรับดี และยังเตรียมความพร้อมสู่โลกคริปโต หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ประกาศใช้เงินบาทดิจิทัล ในกลางปี 2565