เมื่อเวลา 07.40 น. วันที่ 26 มิ.ย. ที่วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการขยับไทม์ไลน์ เลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและเลือกนายกรัฐมนตรี ได้มีการแจ้งมายังรัฐบาลแล้วหรือไม่ ว่าไทม์ไลน์ที่ตนเคยให้สัมภาษณ์เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า จากกำหนดการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยวันที่ 3 ก.ค.66 จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาและอยู่ในกรอบ 15 วัน วันสุดท้ายเป็นวันที่ 15 ก.ค
เมื่อถามว่าทางสภาได้แจ้งแล้วหรือไม่ ถึงวันโหวตตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร นายวิษณุ กล่าวว่าต้องรอทางสภาฯเป็นผู้กำหนด ขณะนี้ถือว่ายังไม่มีใครเป็นประธาน ทั้งนี้สภาผู้แทนราษฎรจะเป็นผู้กำหนดวัน จะต้องประสานกับพรรคการเมืองต่างๆว่าสามารถมาเข้าร่วมประชุมได้หรือไม่ และไม่ต้องแจ้งมายังคณะรัฐมนตรี(ครม. )เพราะครม. ไม่ต้องเข้าร่วมประชุมด้วย ทางสภาฯต้องแจ้ง ส.ส. เท่านั้น ไม่เหมือนกับการเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องประสานกับวุฒิสภาว่าสามารถมาประชุมได้หรือไม่

เมื่อถามต่อว่าพรรคการเมืองเสียงข้างน้อยสามารถเสนอชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า “แล้วแต่ว่าแต่ละพรรคจะเสนอ เพราะจะนำไปสู่การลงคะแนนลับ”
เมื่อถามอีกว่าวันโหวตนายกรัฐมนตรี ผู้มีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของแต่ละพรรคจำเป็นต้องเดินทางไปเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่กับสภา ถ้าบอกว่าก่อนจะมีการโหวตให้คนที่เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแถลงแสดงวิสัยทัศน์ก็ได้ แต่ที่ผ่านมาไม่เคยทำ
เมื่อถามด้วยว่าครั้งที่ผ่านมาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่ต้องไปแสดงตัวต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งนี้จะต้องไปหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอาจจะเป็นคนนอก ซึ่งเข้าไปในที่ประชุมสภาไม่ได้อยู่แล้ว
ทางด้าน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภา ในวันที่ 3 ก.ค.ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเสด็จพระราชดำเนินประกอบรัฐพิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภา เวลา 17.00 น. โดยมีนายกรัฐมนตรีคณะรัฐมนตรี(ครม.) คณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ ส.ส. และส.ว.สำหรับความพร้อมตนได้ลงพื้นที่ตรวจดูความเรียบร้อยแล้ว แต่ก็เป็นห่วง เพราะแม้จะเป็นห้องโถงใหญ่ แต่เนื่องจากจะมีผู้เข้ามาร่วมจำนวนมาก เกรงว่าที่จะคับแคบ แต่คิดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย และกำชับส่วนต่างๆให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง

นอกจากนึ้ ในวันที่ 4 ก.ค. จะมีการประชุม เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานฯ ในเวลา 09.00-09.30 น. ส่วนการแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตประธานสภาฯคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน โดยจะเป็นการประชุมลับและลงมติลับ ส่วนวิธีการโหวตทำได้ 2 แบบ โดยแบบแรกคือการกดปุ่มแสดงตน แต่วิธีนี้สามารถค้นหาย้อนหลังได้ว่าใครเลือกใคร ส่วนวิธีที่ 2 เป็นการหย่อนบัตร ซึ่งวิธีนี้จะใช้เวลานานหน่อย แต่ต้องดูว่าเขาจะใช้วิธีไหน
ผู้สื่อข่าวถามว่าวันโหวตเลือกประธานสภาฯและนายกรัฐมนตรี จะมีการเลื่อนวันอีกหรือไม่นายพร้อมเพชร กล่าวว่า ไม่ได้อยู่ที่ดุลพินิจของตน ตนไม่มีดุลพินิจที่จะไปสั่งการอะไรทั้งสิ้น ถ้าสภาฯพร้อมเมื่อไหร่ก็จะมีการแจ้งมา ทั้งนี้ การโหวตเลือกประธานสภาฯ ยังเป็นวันที่ 4 ก.ค. ตนเชื่อว่าจะไม่เปลี่ยน
นายพรเพชร กล่าวว่า สำหรับคุณสมบัติของประธานสภาฯตนไม่สามารถให้ความคิดเห็นได้ว่า เป็นคนอายุน้อยหรือเป็นคนอายุมากที่มีประสบการณ์ เพราะการเลือกประธานสภาแต่ละครั้งมีเหตุผลต่างกัน แต่หลักที่ปฏิบัติกันมาตามปกติประธานสภาจะของพรรคที่มีเสียงข้างมาก แต่บางครั้งก็ไม่เป็น แต่มันก็ต้องมีเหตุผล ซึ่งเขาก็ต้องอธิบายได้ ทั้งนี้พูดได้เลยว่าทิศทางการ โหวตเลือกนายกฯของส.ว.ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ตนไม่ทราบว่าใครคิดยังไง เขามีความคิดของเขา แต่ละคนมีเหตุผลและวุฒิภาวะ เลือกที่จะตอบได้ว่าทำไมถึงเลือกและทำไมถึงไม่เลือก
เมื่อถามต่อว่าวันโหวตนายกฯจะเรียบร้อยหรือไม่ นายพรเพชร กล่าวว่า ไม่น่าจะมีอะไรไม่เรียบร้อย แต่อาจจะมีความวุ่นวายในช่วงการอภิปราย ก็คิดว่าทุกท่านก็คงเข้าใจว่าต้องใช้สิทธิ์อยู่ในกรอบในการอภิปรายหรือการชี้แจงตามขอบเขต ส่วนมองคุณสมบัติคนที่จะมาเป็นนายกฯอย่างไร นายพรเพชร กล่าวว่า เลือกคนดีคนเก่ง นี่เป็นหลักอย่างหนึ่ง ดีและเก่งสามารถนำพาประเทศชาติ ให้มีความมั่นคงในระบอบประชาธิปไตย ตนย้ำมาโดยตลอดขอให้ส.ว. ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเลือกคนที่มีความรู้ความสามารถ และที่สำคัญต้องคำนึงถึงประเทศชาติ
เมื่อถามอีกว่า สังคมกดดันให้เลือกนายกฯจากฝั่งรัฐบาลเสียงข้างมาก นายพรเพชร ถามกลับว่า สังคมหมายถึงใคร ผู้สื่อข่าวว่า พรรคที่มีประชาชนเลือกมาเป็นอันดับ 1 นายพรเพชร กล่าวว่า ก็คงเป็นธรรมดาที่ประชาชนอยากให้พรรคที่เลือกได้สมประสงค์ แต่ก็ขอให้อยู่ในขอบเขต
ขณะที่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร. เดินทางกลับมาจากอังกฤษแล้ว วันเดียวกันนี้มีการประชุมค้ามนุษย์

เมื่อถามถึงกระแสข่าว พล.อ.ประวิตร จะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายชัยวุฒิ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคพปชร.อยู่แล้ว และมีการดำเนินการหาเสียงมาโดยตลอด ส่วนการจะเป็นนายกฯหรือไม่นี้น ขึ้นอยู่ที่การเลือกตั้งและลงมติในสภา
เมื่อถามถึงการดำเนินการทางการเมืองของพรรคจากนี้ไป นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคมี ส.ส. 40 คน ได้มีการประชุมและเตรียมความพร้อมอยู่แล้วในการทำงานในสภา ดำเนินการตามนโยบายพรรคและแก้ปัญหาให้กับประชาชนก็จะทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามต่อถึงการโหวตประธานสภามักจะมีแนวทางโหวต นายชัยวุฒิ กล่าวว่าไม่ทราบ ยังไม่ได้พูดคุยกัน ส่วนกระแสข่าวว่าพรรคพปชร.จะร่วมมือกับพรรคเพื่อไทย ในการโหวตประธานสภา นายชัยวุฒิกล่าวว่าไม่ทราบ พร้อมถามกลับว่า “ในกระแสข่าวมีการร่วมมือกันหรือ”
เมื่อถามอีกว่า จะประชุมถึงแนวทางการโหวตประธานสภาเมื่อไหร่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ประมาณวันจันทร์-อังคารนี้และไม่ทราบว่าที่ประชุมจะให้เป็นมติพรรคหรือฟรีโหวต ทั้งนี้เป็นปกติที่ทุกพรรคจะมีการประชุมกันก่อนที่จะลงมติอะไร เพราะเป็นเรื่องสำคัญ