สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ว่า สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นโอดีซี) ระบุในรายงานประจำปีว่า ในขณะที่ผู้คนจำนวนมากกำลังต่อสู้กับปัญหาการติดยา กลุ่มอาชญากรยังคงใช้ประโยชน์จากความขัดแย้ง และวิกฤติโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายการผลิตยาเสพติด
“เฟนทานิลเปลี่ยนแปลงตลาดฝื่นในอเมริกาเหนืออย่างมาก” ยูเอ็นโอดีซี กล่าวเพิ่มเติมว่าในแถลงการณ์ที่มาพร้อมกับรายงานว่า ในปี 2564 เพียงปีเดียว การเสียชีวิตจากการใช้ยาเกิดขนาดที่เกี่ยวข้องกับสารโอปิออยด์ประมาณ 90,000 คนในอเมริกาเหนือ ส่วนใหญ่มีความเชื่อมโยงกับยาเสพติดโอปิออยด์สังเคราะห์
ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีสัญญาณที่บ่งบอกว่า สงครามในยูเครนอาจกระตุ้นการขยายตัวของการผลิต และการลักลอบค้ายาสังเคราะห์ เมื่อพิจารณาถึงความรู้ที่มีอยู่ และตลาดขนาดใหญ่หลายแห่งที่กำลังพัฒนาในภูมิภาคนี้
นอกจากนี้ “การลดลงอย่างมาก” ตามที่คาดการณ์ไว้ในการปลูกฝิ่นในอัฟกานิสถาน หลังจากมีการห้ามปลูกต้นฝิ่นในระดับชาติ อาจมีแนวโน้มผลักดันการเปลี่ยนแปลงไปสู่การผลิตยาสังเคราะห์
อีกด้านหนึ่ง ลุ่มแม่น้ำแอมะซอนได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากอุตสาหกรรมโคเคนที่เฟื่องฟู โดยการลักลอบค้ายาเสพติดเป็นตัวเร่งการเกิดอาชญากรรมและการทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งรวมถึงการตัดไม้แบบผิดกฎหมาย, การทำเหมือง, การยึดที่ดิน และการลักลอบค้าสัตว์ป่า
“เราจำเป็นต้องยกระดับการตอบสนองต่อขบวนการค้ายาเสพติด ที่ใช้ประโยชน์จากความขัดแย้งและวิกฤติโลก เพื่อขยายการเพาะปลูก และการผลิตยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาสังเคราะห์” นางกาดา วาลี กรรมการบริหารของยูเอ็นโอดีซี กล่าว.
เครดิตภาพ : AFP
