สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ว่า นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) กล่าวว่า นาโตยังคงจับตาสถานการณ์ในรัสเซียอย่างใกล้ชิด แม้รัฐบาลมอสโกสามารถบรรลุข้อตกลงกับนายเยฟเกนี พริโกซิน ผู้นำของกองกำลังทหารรับจ้างวากเนอร์ โดยมีประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ผู้นำเบลารุส ทำหน้าที่คนกลางก็ตาม
สโตลเทนเบิร์กกล่าวต่อไปว่า นาโตถือว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “เป็นเรื่องภายใน” ของรัสเซีย แต่สะท้อน “ความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์” ในการที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ยึดครองคาบสมุทรไครเมีย และเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารต่อยูเครน เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565
เกี่ยวกับการที่เบลารุสประกาศให้สถานที่ลี้ภัยแก่พริโกซิน เลขาธิการนาโตกล่าวว่า กำลังจับตาอย่างใกล้ชิดเช่นกัน และจากการที่รัสเซียเริ่มการติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ในเบลารุสด้วย แม้นาโตยังไม่พบสัญญาณว่า รัฐบาลมอสโกเตรียมใช้ขีปนาวุธซึ่งนำมาติดตั้งในเบลารุส แต่นาโตต้องเตรียมความพร้อมตลอดเวลา
ขณะที่นายโฮเซป บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวถึงการลุกฮือต่อต้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียของวากเนอร์ ว่าสงครามยูเครนเผยให้เห็นรอยร้าวภายในโครงสร้างอำนาจของรัสเซีย และระบบการบริหารภายในทำเนียบเครมลิน อย่างไรก็ตาม การที่มหาอำนาจนิวเคลียร์อย่างรัสเซีย เผชิญกับวิกฤติด้านความมั่นคงภายใน “ในรูปแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ถือว่า “น่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง”.
เครดิตภาพ : AFP
