ากกรณี ด.ช.วัย 14 ปี ทาสยานรกคลั่งขอเงินปู่ที่เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะไม่ได้ คว้ามีดอีโต้ไล่ฟันสาหัส หลังก่อเหตุเกิดกลัวความผิดจึงตัดสินใจผูกคอลาโลกในพื้นที่บ้านกุดจิก ต.กุดจิก อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู พร้อมด้วย พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี รอง ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู พ.ต.อ.สุมิตร นันสถิตย์ ผกก.สภ.ศรีบุญเรือง นายเพทาย จรกระโทก นายอำเภอศรีบุญเรือง ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวจิตเวช ที่บ้านหนองทุ่งมน ต.เมืองใหม่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นเคสที่น่าสนใจคือแม่และลูกสาวมีอาการทางจิตเช่นเดียวกัน บ่อยครั้งหากขาดยาจะเกิดอาการพูดจาเลอะเลือนทั้งวัน และมีอาการคลุ้มคลั่งเป็นบางครั้ง แต่ก็โชคดีที่ผู้นำในพื้นที่รวมถึง อสม. ได้เฝ้าติดตามและให้ความสนใจ คนในชุมชนไม่ได้ปล่อยปละเลย

โดยวันนี้ พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ และนายอำเภอศรีบุญเรือง ได้ร่วมเสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยไม่ปล่อยให้เป็นภาระผู้ใดผู้หนึ่งโดยเฉพาะ โดยเน้นย้ำให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง ตามที่มีสื่อมวลชนได้เสนอข่าว และก็มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ที่ อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู ส่วนประเด็นและสาเหตุน่าจะมาปัญหายาเสพติด เพราะผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจากการพบของกลางที่เป็นอุปกรณ์การเสพยาเสพติดในบ้านของผู้ก่อเหตุ ส่วนความชัดเจนคงจะต้องรอการให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของปู่ที่โดนทำร้ายและพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่ในขณะนี้

คดีนี้ก็เป็นที่น่าสนใจอันเนื่องมาจากว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายกันโดยผู้ก่อเหตุเป็นหลาน ได้ใช้อาวุธมีดอีโต้ฟันปู่บาดเจ็บสาหัสหลายแห่ง โดยเฉพาะที่บริเวณใบหน้า และยังพบว่าหลานผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชนอายุแค่ 14 ปี และเป็นหลานตัวเองและเลี้ยงมาแท้ๆ โดยได้ใช้เชือกผูกคอตัวเองเสียชีวิตที่ต้นลำไยด้านหลังบ้าน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา

โดยทั้งผู้การฯหนองบัวลำภู และนายอำเภอศรีบุญเรือง ได้ขอความร่วมมือผู้นำชุมชนร่วมกันในดูแลพฤติกรรมของในหมู่บ้าน ชุมชน ที่อาจจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนวิกลจริตหรือดื่มสุราเอะอะโวยวายจะทำร้ายคนในครอบครัว หรือคนในหมู่บ้านชุมชน โดยในแต่ละหมู่บ้านจะมีการมอบหมายภารกิจให้เป็น 5 ทหารเสือในหมู่บ้าน/ชุมชน และตำบล ที่จะร่วมกันสอดส่องดูแลร่วมกันก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์จะเลวร้ายไปกว่านี้ พร้อมเน้นย้ำการให้ยากับผู้ป่วยต้องต่อเนื่องสม่ำเสมอ และไม่ขาดยา หากหมู่บ้านชุมชนร่วมกันเฝ้าระวังปัญหานี้คงดีขึ้น เสร็จแล้วก็จะเป็นชุมชนเข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป.