เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรอบเวลาการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกประธานสภา ต้องดำเนินการเลือกให้ได้ภายใน 10 วัน นับแต่วันเสด็จฯ เปิดประชุมรัฐสภาที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 ก.ค. นี้ คือไม่เกินวันที่ 12 ก.ค. นี้ และไม่มีเหตุที่จะเลือกประธานสภาไม่ได้ เพราะไม่เหมือนกับการเลือกนายกรัฐมนตรีที่ต้องใช้คะแนนเสียงของ 2 สภารวมกันเกิน 376 เสียง แต่การเลือกประธานสภา สามารถเสนอชื่อคนลงแข่งขันกี่คนก็ได้ โดยต้องเสนอชื่อพร้อมกัน และใช้เสียงข้างมากของ ส.ส. ในการตัดสิน ดังนั้นโอกาสที่จะเลือกประธานสภาไม่ได้ จึงไม่น่าจะเกิดขึ้น
เมื่อถามว่าประธานสภาในฐานะประธานรัฐสภา มีอำนาจควบคุมการเลือกนายกฯ หรือเป็นเรื่องของมติที่ประชุมรัฐสภาที่กำหนดเรื่องการเลือกนายกฯ นายวิษณุ กล่าวว่า ประธานสภามีอำนาจกำหนดวันโหวตนายกฯ ส่วนถึงเวลานั้นแล้วจะเลือกนายกฯ กันอย่างไร และมีกี่ชื่อนั้น เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากการโหวตเลือกนายกฯ ได้เสียงไม่ถึง 376 เสียง จะต้องทำอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ประธานรัฐสภาต้องดำเนินการและไม่มีกรอบเวลา โดยจะนัดประชุมในวันรุ่งขึ้น หรืออีก 7 วัน หรือ 15 วันก็ได้ โดยให้สมาชิกกลับไปคิด
เมื่อถามว่าดูจากสถานการณ์การเมืองขณะนี้ คิดว่าจะเลือกนายกฯ ได้ช้าหรือเร็ว นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต่อข้อเมื่อถามว่าหากเกิดเหตุการณ์เลือกนายกฯ ไม่ได้ ประธานสภาสามารถพลิกเกมไปเลือกแคนดิเดตนายกฯ คนอื่นได้หรือไม่ หรือให้เป็นเรื่องมติที่ประชุมรัฐสภา นายวิษณุ กล่าวว่า ตอนนั้น ส.ส. ปฏิญาณตนเสร็จแล้ว จึงมีฐานะในการประชุมสภาปกติ ใครเสนอมา ถ้าอีกฝ่ายไม่เห็นด้วยก็เสนอมาแข่ง ประธานรัฐสภาก็จะให้โหวตกันว่าจะเลือกแบบไหน
ต่อข้อถามว่าถ้ายังเลือกนายกฯ ไม่ได้ แต่ต้องการเลือกต่อ เป็นอำนาจสมาชิกรัฐสภาหรือประธานรัฐสภา นายวิษณุ กล่าวว่า แล้วแต่ประธานรัฐสภาจะนัดวัน แต่ส่วนใหญ่ประธานรัฐสภาจะฟังเสียงสมาชิก
เมื่อถามว่าส่วนใหญ่ถ้านัดประชุมโหวตนายกฯ เพื่อเปิดทางให้มีการล็อบบี้กันใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สื่อมวลชนเป็นคนพูดเรื่องล็อบบี้ ส่วนการนัดใหม่อาจมีเหตุหลายอย่าง เหมือนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ไม่ให้ลงมติในวันเดียวกัน เพราะต้องการให้กลับไปคิดกันใหม่ เพราะอาจจะมาด้วยขอเสนอที่ดีกว่าเดิมก็ได้ เช่น เปลี่ยนคน
ผู้สื่อถามว่าสุดท้ายแล้วอำนาจของประธานสภา แค่กำหนดวันในการเลือกนายกฯ ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เขาไม่ได้แย่งตำแหน่งกันเกี่ยวกับการเรื่องนายกฯ แต่ต้องการเอาตำแหน่งประธานสภา เพื่อทำหน้าที่อื่นๆ ด้วย ทั้งเรื่องกฎหมาย กระบวนการต่างๆ การนัดวันประชุม อย่างไรก็ตาม ประธานสภาไม่ได้มีอำนาจยิ่งใหญ่ไพศาล อย่างที่นายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา พูดว่าประธานสภาชี้เป็นชี้ตายอะไรไม่ได้ เพราะบางอย่าง ประธานสภาตัดสินใจเองได้ แต่บางอย่างต้องขึ้นอยู่กับเสียงข้างมาก และอำนาจอีกอย่างของประธานสภา คือเปิดและปิดประชุม
เมื่อถามว่าประธานสภา มีอำนาจตัดตอนการนำเสนอกฎหมายได้หรือไม่ เช่นประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 นายวิษณุ กล่าวว่า ประธานสภาชี้ขาดตอนแรกว่าจะรับหรือไม่รับ ซึ่งที่ผ่านมาประธานสภาวินิจฉัยไม่รับ เพราะเห็นว่าเป็นการเสนอกฎหมายที่ผิดกฎหมาย ต่อข้อถามว่าเรื่องนี้จึงทำให้พรรคก้าวไกลอยากได้ตำแหน่งประธานสภา ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่ทราบว่าเขาอยากได้เพราะอะไร แต่แน่นอนถ้าใครได้ ก็ดีทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ถ้าในที่สุด เมื่อได้ตัวประธานสภาแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง แต่หากขณะนั้นได้นายกฯ คนใหม่ ประธานสภาต้องเป็นผู้รับสนองฯ
เมื่อถามว่าผู้ที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ สามารถลาออกจากตำแหน่งนี้ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ลาออกไม่ได้ ถอนตัวไม่ได้ ยกเว้นจะใช้วิธีว่า ถ้าเขาได้รับเลือกแล้ว เขาไม่รับ หรือบุคคลนั้นทำให้ตัวเองขาดคุณสมบัติ หรือเสียชีวิต