เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่วอยซ์ทีวี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงปัญหาตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรระหว่างพรรคเพื่อไทย (พท.) กับพรรคก้าวไกล จะส่งผลต่อจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ว่าอยากให้รักษาประชาธิปไตยเอาไว้ อะไรที่พูดคุยกันไม่รู้เรื่องก็คุยกันให้รู้เรื่องกัน อาจจะมีได้บ้างเสียบ้าง อย่าไปคิดมากเพราะมันจะมีปัญหา หากแตกคอกันเผด็จการจะกลับมา แล้วควรจะจบก่อนนัดพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 2 ก.ค.นี้ เชื่อว่าจะจบลงได้ด้วยดี
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าตนทบทวนดูเอ็มโอยูในการทำงานร่วมกันระบุชัดเจนว่าสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี และไม่ได้พูดถึงประเด็นประธานสภาฯ ฉะนั้นจะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาก็มีสิทธิ์ แต่จะตกลงอย่างไรขึ้นอยู่กับสองพรรค ซึ่งพรรคเสรีรวมไทยไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย แต่ให้กำลังใจหวังว่าจะตกลงกันให้ได้ ทั้งนี้ การทำงานร่วมกันในสภาฯมันสำคัญกว่าที่จะมีปัญหาการแตกหักกัน

เมื่อถามว่า กรณีที่พรรคก้าวไกลเปิดชื่อ นายปดิพัทธ์ สันดิภาดา ส.ส.พิษณุโลก และพรรคพท. เปิดชื่อนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค เป็นประธานสภาฯ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่าตนเคยตอบไปแล้ว นพ.ชลน่านเป็นส.ส.หลายสมัย เคยเป็นรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้านฯ ส่วนนายปดิพันธ์เป็นส.ส.มา 4 ปี 1 สมัย ซึ่งคนทำหน้าที่ประธานสภาฯต้องรอบรู้และมีประสบการณ์ ดังนั้นนพ.ชลน่านจึงมีประสบการณ์มากกว่า แต่ไม่ได้เข้าข้างเพียงสื่อยกชื่อมาถาม
“ต้องแยกกันให้ออกเลือกประธานสภาฯกับนายกฯคนละส่วน ถ้าเอามารวมกันจะตกลงกันไม่ได้ เมื่อเราสนับสนุนนายพิธา ต้องสนับสนุนให้เต็มที่ มันไม่อยู่ที่ผม แต่มันอยู่ที่สองพรรค” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว