เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง นำกำลังพนักงานฝ่ายปกครองพร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนกว่า 30 นาย บุกตรวจค้น “ร้านลาบเป็ดยโส เจ้นิ่ม รองเมือง ปทุมวัน” เลขที่ 185 ถนนพระรามที่ 1 แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ ซึ่งเปิดเป็นสถานบันเทิงแอบแฝงและผิดกฎหมาย

สืบเนื่องจากชาวบ้านร้องเรียนมายังอธิบดีกรมการปกครอง ว่ามีร้านลาบเปิดลักลอบเปิดผับบนอาคารชั้น 2 ให้บริการถึงเช้าเกือบทุกวัน ซึ่งผับดังกล่าวตั้งอยู่ใกล้กับวัดชำนิหัตการ หรือ วัดสามง่าม ตรงข้ามวัดสระบัว และปากซอยเข้าวัดบรมนิวาส เสียงดังรบกวนโดยรอบ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ชั้นล่างเปิดให้บริการขายอาหารอีสานติดแอร์มีการ์ดคอยดูแลความเรียบร้อย พบนักเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างด้าวประมาณ 100 คน ส่วนชั้น 2 ถูกดัดแปลงให้เป็นผับ มีทั้งที่เครื่องเสียง ที่เก็บเสียง ไฟแสงสี ยิงไฟเลเซอร์เปิดเพลงเสียงดัง มีการ์ดดูแลอย่างแน่นหนา พบนักเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างด้าวประมาณ 150 คน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ปิดเครื่องเสียงและเปิดไฟในร้าน ท่ามกลางความแตกตื่นของนักเที่ยวที่กำลังดื่มกินต่างพากันแตกฮือพยายามหลบหนี ส่วนชั้น 3 เปิดเป็นห้องน้ำ

จากการตรวจค้นภายในพบวัยรุ่นอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 25 คน เป็นคนไทย 4 คน ลาว 21 คน และพนักงานเสริฟชาวลาวไม่มีบัตรทำงาน 8 คน ในร้านมีเพียงสุราไม่พบยาเสพติดแต่อย่างใด พนักงานฝ่ายปกครองจึงได้จับกุมตัวเจ้าของร้านส่งดำเนินคดีที่สน.ปทุมวัน โดยกล่าวโทษในฐานความผิด เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย และจ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย

ด้านนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง เปิดเผยว่า ทุกครั้งที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองไปตรวจจับสถานบันเทิงในที่ต่างๆ จะมีคำสั่งปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5 ปีเสมอ ซึ่งปฏิบัติการในวันนี้พบว่าสถานบันเทิง “ลาบเป็ดยโส เจ้นิ่ม รองเมือง ปทุมวัน” มีกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายโดยชัดแจ้ง และตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงศาสนสถาน เปิดมาได้ประมาณ 3 ปี ส่งเสียงดังรบกวนวัดทั้ง 3 วัด และยังเปิดถึงเช้า

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจะเสนอให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้อย่างถาวร ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 และจะได้ประสานกับทางกรุงเทพมหานครให้ตรวจสอบการใช้อาคารผิดประเภทตามกฎหมายควบคุมอาคารด้วย จึงฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการสถานบันเทิงควรประกอบธุรกิจด้วยความมีจิตสํานึกรับผิดชอบต่อสังคมและถูกต้องตามกฎหมาย