เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ น.ส.รัตน์ตพร แสงอ่อน อดีตผู้ติดตาม (พนักงานบริการ) เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในปี 2552- 2555 เรียกร้องเงินเยียวยาปัญหาสุขภาพทางสายตาระหว่างการปฏิบัติงานนั้น กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว พบว่าในระหว่างช่วงการปฏิบัติงาน นายจ้างนัดหมายให้ น.ส.รัตน์ตพร รับการตรวจจากแพทย์ทั้งในไทยและในฝรั่งเศส น.ส.รัตน์ตพร มีอาการผิดปกติทางสายตา (ต้อหิน) มานานก่อนปฏิบัติหน้าที่ในราชการแล้ว ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางกรรมพันธุ์ และสมาชิกครอบครัวของ น.ส.รัตน์ตพร มีประวัติป่วยด้วยโรคเดียวกันนี้หลายคน อีกทั้ง เมื่อปี 2555 น.ส.รัตน์ตพร ได้ลาออกจากราชการด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ โดยไม่ได้ระบุรายละเอียดอื่น และเป็นการลาออกที่ไม่ได้รับเงินชดเชยตามหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการที่มีสำนักงานอยู่ในต่างประเทศ

นางกาญจนา กล่าวอีกว่า กระทั่งในปี 2561 น.ส.รัตน์ตพร ติดต่อขอรับความช่วยเหลือเพิ่มเติม ทางกระทรวงฯ จึงขอให้กรมบัญชีกลางพิจารณาจ่ายเงินช่วยเป็นกรณีพิเศษ โดยต่อมา กรมบัญชีกลางอนุมัติให้จ่ายเงินช่วยกรณีพิเศษแก่ น.ส.รัตน์ตพร จำนวน 196,549.15 บาท ซึ่งประกอบด้วยเงินช่วยเหลือ 186,000 บาท และเงินรางวัลประเพณี 10,549.15 บาท จากนั้น น.ส.รัตน์ตพร มีหนังสือถึงกระทรวงฯ อีกหลายครั้ง เพื่อขอเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม 1,000,000 บาท ซึ่งทางกระทรวงฯ ขอให้กรมบัญชีกลางพิจารณาเป็นระยะๆ ต่อมา ในปี 2564 น.ส.รัตน์ตพร ร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้แสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของกรมบัญชีกลาง กรณีไม่จ่ายเงินเยียวยาให้แก่ตน ซึ่งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติให้ยุติเรื่อง เพราะยังไม่ปรากฏเอกสารหลักฐานเพียงพอ และขอให้กรมบัญชีกลางพิจารณาแนวทางหรือวิธีการช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนหรือความไม่เป็นธรรมให้แก่บุคคลที่เป็นลูกจ้างชั่วคราว ต่อมาเดือน มี.ค. 2566 กรมบัญชีกลางแจ้งว่าไม่สามารถอนุมัติเงินช่วยเหลืออื่นใดได้ เพราะ น.ส.รัตน์ตพร พ้นสถานะลูกจ้าง และเคยได้รับเงินช่วยเหลือแล้ว จึงไม่อยู่ในข่ายที่จะรับเงินทำขวัญตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกระทรวงฯ แจ้งผลการพิจารณาดังกล่าวให้ น.ส.รัตน์ตพร ทราบแล้ว
นางกาญจนา กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญกับการดูแลบุคลากรและเจ้าหน้าที่ และมีความเห็นใจ น.ส.รัตน์ตพร ตลอดจนดำเนินการช่วยเหลือ น.ส.รัตน์ตพร ภายใต้ระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ เท่าที่จะทำได้แล้ว ทั้งนี้ ขอส่งกำลังใจให้ น.ส.รัตน์ตพรด้วย