เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการซื้อขายโค-กระบือ ที่ตลาดนัดโค-กระบือ บ้านเต่านอ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งจัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ของสัปดาห์ โดยพบว่าวันนี้มีพ่อค้าโคหรือนายฮ้อย จากหลายจังหวัดในภาคอีสานนำโคและกระบือมาจำหน่ายอย่างคึกคัก ภายหลังจากประเทศเวียดนาม อนุมัติให้ฟาร์มโค-กระบือของไทยที่ได้แจ้งความประสงค์จะส่งออกโค-กระบือมีชีวิตเพื่อการบริโภค สามารถส่งออกจากไทยไปยังเวียดนามได้แล้ว

นายบุญมา ศรีชมชื่น อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 155 ต. หนองใหญ่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น กล่าวว่าการค้าขายวัวช่วงนี้คึกคักขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง คึกคักมาตั้งแต่ช่วงที่เวียดนามยังไม่ประกาศเปิดให้ส่งออกวัวได้ ซึ่งแม้ว่าการซื้อขายจะดีขึ้นแต่ราคาถูกเหมือนเดิม ซึ่งจากการพูดคุยกันของกลุ่มเกษตรกรพบว่าหลังเวียดนามให้ส่งวัวไปขายได้แล้วราคาจะดีขึ้น แต่ความจริงแล้วเป็นเพียงแค่การปั่นราคากันเองของพ่อค้าเท่านั้น

“ราคาวัวตอนนี้ยังตัวละ 20,000 กว่าบาทเท่านั้น จากเดิม 30,000-40,000 บาท ซึ่งด้วยราคาที่ถูกทำให้วัวขายออกได้เร็วขึ้นกว่าช่วงก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด วันนี้เอาวัวมาขายทั้งหมด 7 ตัว ขายไปได้แล้ว 6 ตัว ถือว่าวันนี้ขายได้ดีมาก แต่ช่วงหน้าเทศกาลจะขายดีกว่านี้และได้ราคาสูง ไม่ว่าจะเป็นช่วง ปีใหม่ สงกรานต์ หรืองานบุญ ช่วงเกี่ยวข้าว เพราะพ่อค้าแย่งกันซื้อเนื้อไปขายช่วงเทศกาลบางครั้งวัวที่มีในพื้นที่อาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการ อย่างไรก็ดีขอฝากถึงรัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะเข้ามาบริหาร อยากให้ช่วยเรื่องราคาวัว หาพ่อค้า หาตลาดส่งออกต่างประเทศให้มากกว่านี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือคนเลี้ยงวัว และอยากให้ราคาอาหารสัตว์ถูกลงเพื่อเป็นการลดต้นทุนอีกด้วย”

ขณะที่ นายภานุพงศ์ สังเกตชน อายุ 23 ปี พ่อค้าวัวจาก อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู กล่าวว่า ราคาวัวยังไม่มีการปรับขึ้นแต่อย่างใด ยังถูกเหมือนเดิมตั้งแต่เวียดนามงดส่งออกวัวจากประเทศไทย ตั้งแต่นั้นมาราคาตกมาโดยตลอด แต่ตอนนี้เวียดนามให้ส่งออกไปได้แล้วแต่ราคาก็ยังไม่ดีขึ้น ส่วนราคาซื้อขายถูกแต่ก่อนราคาตัวละ 50,000-60,000 บาท เหลืออยู่ประมาณ 30,000-40,000 บาท ถูกลงเยอะ บางคนก็บอกว่าวัวแพงถึงจะซื้อไปเลี้ยง วัวถูกไม่ซื้อ วันนี้จะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าวัวในพื้นที่ที่ซื้อไปเลี้ยง ซื้อไปขายต่อ ส่วนพ่อค้าวัวจากภาคกลางยังไม่ลงมารับซื้อถึงที่ในระยะนี้