จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับกรณีการตรวจพบความผิดปกติของงบการเงินของ บริษัท สตาร์คคอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK) เป็นคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 โดยการสืบสวนเบื้องต้นมีมูลเชื่อว่ามีการกระทำผิดของกรรมการ หรือ ผู้บริหาร หรือบุคคลอื่นใด เกิดขึ้น ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งพฤติการณ์มีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุน และระบบเศรษฐกิจการคลังของประเทศ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้เสียหายหลายรายในฐานะผู้ถือหุ้นกู้ เข้าเร่งรัดติดตามความคืบหน้าทางคดี พร้อมขอให้ดีเอสไอ เร่งอายัดทรัพย์สินให้ได้จำนวนมากที่สุด เพื่อเฉลี่ยคืนผู้เสียหาย ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
สั่งอายัดทรัพย์หุ้น STARK กว่า 100 ล้าน ลั่นขีดเส้นอีก 2 สัปดาห์รู้ตัวคนผิด
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 3 ก.ค. ผู้สื่อข่าว “เดลินิวส์” ได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ และในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนว่า เช้าวันนี้ได้มีการประชุมความคืบหน้าทางคดีหุ้น STARK ของคณะพนักงานสอบสวน อีกทั้งขณะนี้ได้มีการออกหมายเรียกผู้ต้องหาแล้ว จำนวน 2 ราย เป็นอดีตผู้บริหารบริษัทฯ โดยรายแรกให้มา รับทราบข้อหาในวันพฤหัสบดีที่ 6 ก.ค. เวลา 10.30 น. ส่วนรายที่ 2 ให้มา วันศุกร์ที่ 7 ก.ค. เวลา 09.30 น. ที่ กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ศูนย์ราชการฯ อาคารบี ชั้น 8
ทั้งสองคนมีพฤติการณ์ เข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยจากพยานหลักฐานและคำให้การของพยานบุคคล เมื่อนำมาพิจารณาประกอบกัน พบว่าทั้งคู่มีพฤติการณ์ตกแต่งบัญชี และได้รับผลประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว ส่วนถ้าทั้งคู่ปฏิเสธข้อกล่าวหา ก็เป็นสิทธิที่สามารถกระทำได้ อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอยังคงเร่งตรวจสอบจากพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียกแก่บุคคลอื่นๆ เพิ่มเติม หากพบว่ารายใดมีพฤติการณ์ความเกี่ยวข้องกับการทุจริต
สำหรับประเด็นที่มีการนำเสนอข่าวก่อนหน้านี้ว่า หนึ่งในอดีตผู้บริหาร ได้ส่งหนังสือชี้แจงกับดีเอสไอ เรื่องหุ้น STARK นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า ตนยังไม่ได้รับหนังสือดังกล่าวแต่อย่างใด มีเพียงข่าวที่ปรากฏออกมา นอกจากนี้ ตนได้รับทราบข้อมูลว่า นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้มีการประสานมายังดีเอสไอว่า เจ้าตัวประสงค์เข้าพบคณะพนักงานสอบสวน ในวันพุธที่ 5 ก.ค. นี้ โดยจะเป็นตัวแทนของบริษัทฯ เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลเพิ่มเติม แต่ขณะนี้ ตนยังไม่ได้ตอบกลับรับนัดหมายอย่างเป็นทางการ ส่วนถ้ามีการประสานตอบกลับไป คาดว่าทางพนักงานสอบสวนอาจจะมีการพูดคุย สอบถามกับ นายวนรัชต์ ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือไม่ก็ที่กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน.