จากกรณี “พลายศักดิ์สุรินทร์” ทูตสันถวไมตรี ที่ถูกส่งไปเป็นทูตสันถวไมตรีที่ศรีลังกาตั้งแต่ ปี 2544 ต่อมาได้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้แรงงานพลายศักดิ์สุรินทร์ ที่ค่อนข้างหนัก อีกทั้งไม่ได้รับการดูแล ถูกล่ามโซ่ มีสภาพผอมโซ มีบาดแผลฝีที่สะโพก และขาบาดเจ็บ ไม่ได้รับการดูจนเจ็บป่วยร่างกายทรุดโทรม ก่อนหลายฝ่ายร่วมกันผลักดันทวงคืนพลายศักดิ์สุรินทร์ กลับคืนสู่บ้านเกิด ซึ่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา “พลายศักดิ์สุรินทร์” ทูตสันถวไมตรี ได้ขึ้นเครื่องกลับไทย ด้วยเครื่องบินแบบ Ilyushin IL-76 (อิลยูชิน อิล-76) โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด จนถึงประเทศไทยอย่างปลอดภัย และมีการนำส่งไปที่สถาบันคชบาลแห่งชาติลำปาง ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้ว

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 4 ก.ค. ในศูนย์กักและเฝ้าระวังโรคช้าง จ.ลำปาง “พลายศักดิ์สุรินทร์” หลังจากเดินทางไกลกว่า 2,400 กิโลเมตร จากประเทศศรีลังกาสู่ประเทศไทย ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งสิ้นกว่า 16 ชั่วโมง ทางสัตวแพทย์ได้ทำการตรวจสุขภาพเบื้องต้นพบว่า ช้างอ่อนเพลียจากการเดินทางเล็กน้อย กินน้ำและอาหารที่จัดเตรียมไว้ได้ดี การขับถ่ายปกติ สามารถล้มตัวลงนอนและลุกขึ้นเองได้ พบปัญหาสุขภาพเบื้องต้นคือขาหน้าซ้ายงอไม่ได้ ปัญหาเล็บและฝ่าเท้า พบแผลฝีที่สะโพกทั้งสองข้างและตาขวาเป็นต้อกระจก หลังจากทำการตรวจสุขภาพแล้ว คุณหมอก็ได้เก็บตัวอย่างเพื่อส่งตรวจโรคติดต่อต่างๆ โดยถ้าหากพ้นระยะกักโรคตามกฎหมายแล้ว จึงจะทำการย้ายช้างเข้าสู่กระบวนการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป

กิจวัตรประจำวันในช่วงกักตัว จะเป็นการทำความคุ้นเคยกับควาญช้าง ฝึกเรียนรู้คำสั่งภาษาไทย และฝึกการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมใหม่ โดยในช่วงแรกเพื่อความปลอดภัยของตัวช้าง ซึ่งยังไม่คุ้นเคยกับสถานที่และการป้องกันโรคติดต่อไปสู่ช้างเชือกอื่น จึงต้องมีการจำกัดบริเวณเล็กน้อย เมื่อเกิดความคุ้นเคยดีแล้ว ทางทีมงานก็จะได้ปรับกิจกรรมประจำวันให้เหมาะสมกับช้างต่อไป.

ขอบคุณภาพจาก กรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช