สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ว่า คลื่นความร้อนรุนแรงที่ปกคลุมตั้งแต่รัฐแคลิฟอร์เนีย ไปจนถึงรัฐเทกซัส คาดว่าจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐ (เอ็นดับเบิลยูเอส) กล่าวเตือนถึง “ช่วงสุดสัปดาห์ที่ร้อนจัดและเป็นอันตราย”

CBS News

ทางการสหรัฐประกาศเตือนภาวะขาดน้ำ และแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในตอนกลางวัน แต่นอกเหนือจากความลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน อุณหภูมิที่พุ่งสูงนี้ยังทำให้เกิดไฟป่าลุกลาม หลายพื้นที่ในภาคตะวันตกของประเทศด้วย

ไฟป่าโหมกระหน่ำ ในเขตริเวอร์ไซด์ ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ทางตะวันตกของสหรัฐ

ในทวีปยุโรป อิตาลีเผชิญกับการคาดการณ์ในช่วงสุดสัปดาห์ว่า จะมีอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ โดยกระทรวงสาธารณสุขของประเทศประกาศเตือนภัย “ระดับสีแดง” ใน 16 เมือง เช่นเดียวกับศูนย์สภาพอากาศที่เตือนให้ชาวอิตาลีเตรียมรับมือกับคลื่นความร้อนที่รุนแรงที่สุดของฤดูร้อน และระอุที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ลีเมอร์กินผลไม้แช่แข็งคลายร้อน ที่สวนสัตว์ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี

นอกจากนี้ อากาศร้อนจัดยังส่งผลให้ป้อมปราการอะโครโพลิส ในกรุงเอเธนส์ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของกรีซ ต้องปิดทำการในช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ส่วนในฝรั่งเศส อุณหภูมิสูงและความแห้งแล้งที่ตามมา กำลังเป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศ

อีกด้านหนึ่งของโลก หลายพื้นที่ทางตะวันออกของญี่ปุ่น คาดว่าจะมีอุณหภูมิสูงถึง 38-39 องศาเซลเซียสในวันนี้ (16 ก.ค.) และวันพรุ่งนี้ โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของญี่ปุ่น (เจเอ็มเอ) กล่าวเตือนว่า อุณหภูมิอาจสูงเกินสถิติก่อนหน้านี้ได้

ชาวอินเดียในเขตสลัมแห่งหนึ่งของกรุงนิวเดลี ใช้ชีวิตท่ามกลางน้ำที่ท่วมขังสูง

ยิ่งไปกว่านั้น ความร้อนที่แผดเผายังส่งผลกระทบต่ออิทธิพลพายุมรสุมทางเหนือของอินเดีย จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 90 ราย ซึ่งแม้ว่าเหตุน้ำท่วมและดินถล่ม จะเกิดขึ้นตามปกติในช่วงเวลานี้ของอินเดีย แต่ผู้สันทัดกรณีหลายคนกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศกำลังเพิ่มความถี่ และความรุนแรงของภัยธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง

อนึ่ง บรรดานักวิทยาศาสตร์ยืนกรานว่า ภาวะโลกร้อน ซึ่งเชื่อมโยงกับการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล เป็นสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังคลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และรุนแรงยิ่งกว่าเดิมในปัจจุบัน.

เครดิตภาพ : AFP