เมื่อเวลา 09.13 น. วันที่ 18 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย พล.อ.ประวิตร มีสีหน้ายิ้มแจ่มใสและอย่างอารมณ์ดี จากนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกรณีที่มีข่าวจะเสนอชื่อของตัวเองชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในวันที่ 19 ก.ค. นี้ พร้อมหรือไม่ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ไม่ตอบคำถามดังกล่าว เพียงแต่ยิ้ม และเดินขึ้นตึกบัญชาการ 1 ไปเพื่อร่วมประชุม ครม.

จากนั้นนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ทาบทามให้พรรค ชทพ. เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า จากกระแสข่าวที่ออกมาตนค่อนข้างสับสน เพราะมีแกนนำพรรคก้าวไกลให้สัมภาษณ์ในแนวทางที่แตกต่างกัน บางท่านก็บอกว่าไม่ได้ติดต่อ ซึ่งตนมองว่าการจะเชิญพรรคไหนเข้าร่วมรัฐบาล ต้องดูว่าเป็นมติของพรรคก้าวไกลหรือไม่ และที่สำคัญต้องเป็นการจะต้องเป็นความเห็นชอบของทั้ง 8 พรรคหรือไม่ เพราะหากมีการเชิญเข้ามาแล้วและไม่มีการยืนยันว่าเป็นความเห็นชอบของทุกฝ่ายร่วมกัน ก็คงยังไม่สามารถให้คำตอบได้ ย้ำว่าเรายังยืนยันในจุดยืนเดิมในเรื่องมาตรา 112 ว่ายึดมั่นแนวทางการทำงานเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และไม่คิดว่าประเด็นมาตรา 112 เป็นปัญหา อย่างไรก็ตามในวันที่ 19 ก.ค. พรรค ชทพ. จะมีการประชุมกันก่อนในช่วงเช้าก่อนโหวตนายกฯ รอบสอง ย้ำว่าขออย่ากังวลกรณีมีกระแสข่าวเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ยิ่งพรรค ชทพ. มีแค่ 10 เสียง และเราก็ไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

เมื่อถามย้ำว่าหากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะต้องไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะเกี่ยวข้องกับจุดยืนมาตรา 112 นายวราวุธ กล่าวว่า ตนคงตอบแทนพรรคเพื่อไทยไม่ได้ แต่หากแนวทางเรื่องมาตรา 112 ไม่ตรงกัน ต่างคนต่างทำงานดีกว่า ส่วนการแก้ไขมาตรา 272 นั้น นายวราวุธ กล่าวว่า หากดูจากบรรทัดแรกของมาตราดังกล่าว ภายในระยะเวลา 5 ปี ก็หมายความว่ามันเหลือเวลาเพียงนิดเดียว ดังนั้นเรามองว่าการแก้ไขมาตรา 272 ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องเร่งรีบมากกว่าการหาตัวนายกฯ.