เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้มีข้อห่วงใยต่อกรณีที่ปัจจุบันมีการใช้ถ้อยคำรุนแรงต่อผู้ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่าง ผ่านทางสื่อโซเชียลเป็นจำนวนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานการณ์ในช่วงนี้ ที่มีประเด็นเกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะถ้ามองย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ผ่านมา เราจะเห็นปัญหาการใช้ถ้อยคำในลักษณะบูลลี่อย่างนี้มากในสังคมไทย อาทิ ในโรงเรียน และทำให้เกิดมีผู้เสียหาย หากเป็นกรณีเด็ก จะทำให้เกิดปัญหากระทบกระเทือนกับจิตใจ และในวันนี้ขยับมาถึงเรื่องการเมืองก็มีการใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ซึ่งทำให้มีผู้ที่ได้รับความเสียหายและความเดือดร้อนในวงกว้าง รวมทั้งไปเกี่ยวข้องถึงญาติพี่น้อง ขณะที่บางคนนำไปสู่การยื่นเรื่องร้องเรียน

น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีจึงมีความห่วงใย และปรารภในที่ประชุม ครม. ว่าต้องการให้สังคมเราใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกด้วยความระมัดระวัง ทุกคนคือคนไทย ไม่จำเป็นต้องแสดงออกด้วยถ้อยคำที่รุนแรงหรือแสดงความเกลียดชัง ที่สำคัญไม่อยากให้มีการโพสต์หรือให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง เพราะผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการบูลลี่หรือโพสต์ดังกล่าวนั้น เขาอาจดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งไม่เป็นประโยชน์กับฝ่ายใดเลย อีกทั้ง นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ควรจะเข้ามามีส่วนร่วมในการย้ำเตือนประชาชนว่าอย่าให้ประเทศไทยกลายเป็นสังคมแห่งการบูลลี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่ของความเห็นที่แตกต่างกัน แต่ควรจะอยู่ด้วยกันบนเหตุผล

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะหากมีการกระทบในประเด็นที่เกี่ยวข้องตามสิทธิทางกฎหมาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องเข้าไปดูแล ทุกฝ่ายไม่ใช่ดูแลเฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และสิ่งสำคัญที่สุด คือทุกคนควรจะร่วมมือกันป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการบูลลี่ในสังคมไทย