จากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปการทวงหนี้ โดยมีการใช้ปืนข่มขู่ จากเจ้าหนี้ที่ชื่อ “เจ๊จ๋า ท่าศาลา” ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ภายหลัง “เจ๊จ๋า ท่าศาลา” ได้ทำคลิปออกมาขอโทษสังคม พร้อมกับให้ข้อมูลทำนองว่า เป็นเพียงการทำคอนเทนต์กันเท่านั้น ไม่ได้เป็นการข่มขู่กันจริง ๆ อีกทั้งอาวุธปืนก็เป็นเพียงบีบีกัน ซึ่งทางตำรวจได้ดำเนินการสอบสวนตามขั้นตอนกฎหมายไปแล้ว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “เจ๊จ๋า ท่าศาลา” ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่าศาลา เพื่อเอาผิด นายเอ (นักข่าวช่องดัง) ในความผิดฐาน พยายามกรรโชกทรัพย์และข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น

โดย “เจ๊จ๋า ท่าศาลา” เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 15 ก.ค. ตนและญาติเจอคลิปที่ไปสร้างคอนเทนต์ในเฟซบุ๊กของ นายเอ ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ด้วยความตกใจเพราะกลัวว่าคนจะเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องจริง จึงได้ทักแชตไปอธิบายว่าเป็นการสร้างคอนเทนต์ไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด ปรากฏว่าอีกฝ่ายกลับต่อรองว่า จะลบคลิปดังกล่าวก็ได้ แต่จะขอค่าน้ำชาให้โต๊ะข่าว บก.จำนวน 5,000 บาท เพื่อไม่ให้ออกข่าวนี้ ก่อนจะมีการส่งเลขบัญชีของภรรยานายเอ เพื่อให้โอนเงิน โดยมีการย้ำด้วยว่า อย่าให้เกินบ่าย 3 โมง เพราะ 4 โมง ต้องประชุมโต๊ะข่าว ภายหลังตนไม่ได้โอนเงินไปให้ ทำให้คืนวันเดียวกัน มีการนำคลิปของตนไปออกทางช่องข่าว ทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจนำหลักฐานข้อความแชตมาแจ้งความเอาผิดนักข่าวรายนี้ให้ถึงที่สุด

ด้าน พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ กล่าวว่า คดีนี้แม้ผู้เสียหายยังไม่โอนเงินให้ตามที่ถูกข่มขู่ แต่ก็สามารถดำเนินคดีได้ ซึ่งตำรวจจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานและเรียกตัว นายเอ มาสอบสวนปากคำ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ส่วนเลขบัญชีที่ส่งให้ผู้เสียหายทางแชตนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเลขบัญชีภรรยาของ นายเอ ซึ่งก็จะเรียกมาสอบสวนด้วยเช่นเดียวกัน.