เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 19 ก.ค. ที่อาคารรัฐสภา นายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.บัญชีบัญชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวก่อนการประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ เป็นนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2 ว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา และตามระเบียบการประชุมรัฐสภา การเลือกนายกรัฐมนตรี ถือเป็นญัตติ เพราะต้องมีการรับรองการเสนอจาก สส. และ สว. ดังนั้น เมื่อมีการเสนอชื่อ และลงคะแนนแล้ว และถูกรัฐสภาตีตกไปแล้ว จึงไม่ควรนำเสนอใหม่
เมื่อถามถึงกรณีที่มีนักวิชาการออกมาให้ความเห็นถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีไม่ถือเป็นญัตติ เพราะมีการแยกหมวดการเลือกนายกรัฐมนตรีไว้เป็นการเฉพาะนั้น นายวราวุธ กล่าวว่า นักวิชาการแต่ละคน มีความเห็นต่างกัน แต่ทั้งนี้ ก็จะต้องฟังทีมกฎหมายของรัฐสภา และการตัดสินใจของที่ประชุมรัฐสภาด้วย
เมื่อถามต่อถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้โทรศัพท์ติดต่อมาเพื่อขอเสียงสนับสนุนนายพิธา นายวราวุธ กล่าวว่าต้องพิจารณาด้วยว่า การติดต่อมาของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ นั้น เป็นข้อเสนอของพรรคเสรีรวมไทยพรรคเดียว หรือเป็นมติของพรรคก้าวไกล หรือ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่หากไม่ใช่ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ก็พร้อมรับฟัง แต่ไม่สามารถให้คำตอบได้ และขณะนี้ ก็ยังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ เพราะการจะตัดสินใจในเรื่องใด จะต้องให้ที่ประชุมพรรคตัดสินใจร่วมกัน ย้ำว่าแนวทางพรรค ชทพ. ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการแก้ไข มาตรา 112 หากพรรคใดจะแก้ไข หรือยกเลิก ก็คงจะต้องแยกต่างคนต่างทำงาน เพราะจุดยืนต่างกัน.