เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ที่รัฐสภา นายอนุสิษฐ คุณากร สว. กล่าวถึง การจัดตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ว่า เป็นเรื่องของ สส. จะไปพูดคุยกันให้ได้ข้อยุติ ซึ่งจากเดิม ที่เคยตกลงว่าให้พรรคอันดับที่ 1 มาจากตั้งรัฐบาลตามมารยาททางการเมือง ซึ่งไม่มีข้อตกลงอะไรเป็นพิเศษทางกฎหมาย และเมื่อจัดตั้งไม่สำเร็จก็เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทย ตามมารยาททางการเมือง ขณะนี้เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยว่าจะตัดสินใจจัดตั้งรัฐบาลรูปแบบไหน จะรวมหรือไม่รวมก้าวไกล ซึ่งพรรคเพื่อไทย คงพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อผลผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปด้วยดี ซึ่งตรงนี้มองว่าถือเป็นทางออกที่ดีพอสมควร
เมื่อถามว่า หากเพื่อไทยยังเจรจาไม่ได้ จะทำให้มีการเลื่อนการโหวตนายกรัฐมนตรีออกไปหลังวันที่ 27 ก.ค. หรือไม่ นายอนุสิษฐ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของประธานสภาและพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลร่วมพูดคุยกัน เพราะ สว. ไม่มีหน้าที่ในการเสนอชื่อและรับรองตัวบุคคลเพื่อโหวตนายกฯ เพราะเป็นบทบาทของ สส. อย่างไรก็ตามตนมองว่าการเร่งรัดเข้ามาบริหารประเทศ ต้องเร่งรัดเรื่องปากท้องพี่น้องประชาชนเพราะเป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้น ขึ้นอยู่กับหลักการของผู้ที่จะจัดตั้งรัฐบาล ว่าจะดำเนินการอย่างไร
เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ หากพรรคก้าวไกลถูกผลักไปเป็นฝ่ายค้านและประชาชนจะลงถนน นายอนุสิษฐ กล่าวว่า ส่วนตัวยอมรับว่ากังวลในฐานะผู้ที่ดูแลบ้านเมือง อย่างภาคราชการ เพราะการเคลื่อนไหวของมวลชนคือลูกหลานและเพื่อนร่วมชาติของเรา ตอนนี้ขอเพียงว่า อย่าให้บ้านเมืองเกิดวิกฤติ สังคมเกิดความไม่สงบ เพราะคนที่รับผิดชอบคือผู้ใหญ่ ดังนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่การเอาชนะเพื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลเท่านั้น เพราะบางยุคสมัยมีฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง
“ที่ผ่านมา ผมมองว่าพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง และ สส. มีคุณภาพสูง เป็นคนรุ่นใหม่ ประชาชนได้ประโยชน์ แม้จะมีประสบการณ์ในเวลาอันน้อยนิด แต่ขออย่าหลงลืม ละเลย เพราะการสร้างชาติของพวกเรา มีมาตั้งแต่ผู้เฒ่า ผู้อาวุโส คนแก่ที่บอกว่า กะโหลกกะลา แต่ความจริงคนเหล่านี้สร้างชาติบ้านเมืองมาให้เราอยู่รอดปลอดภัย พัฒนามาได้จนถึงทุกวันนี้ ขอให้ทุกคนกลับไปคิด ซึ่งการเคลื่อนไหว ต้องออกมารับผิดชอบเฉพาะตัว แต่ตนเป็นห่วงคนที่ไปชี้นำการกระทำที่ผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่อันตราย” นายอนุสิษฐ กล่าว.