เมื่อวันที่ 24 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีชาวบ้านและนักเรียนซึ่งเป็นบุตรหลานจำนวนกว่า 100 คน ได้รวมตัวกันบริเวณหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อประท้วงขับไล่ ผู้อำนวยการโรงเรียน โดยอ้างว่าไม่พอใจในพฤติกรรมของ ผอ. หลาย ๆ เรื่อง ภายหลัง นายเศรษฐี แพรกนัทที นายอำเภอบ้านด่าน และตำรวจ สภ.บ้านด่าน ได้เข้าไปตรวจสอบ แต่กลับไม่พบตัว ผอ. แต่อย่างใด เนื่องจากยังไม่เข้ามาทำงาน ทางนายอำเภอจึงได้รับหนังสือร้องเรียนของชาวบ้านไว้ เพื่อส่งให้กับเขตพื้นที่การศึกษาที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยเร็วที่สุด
จากการสอบถาม นางนก (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี ชาวบ้านที่มาประท้วงให้การอ้างว่า ลูกสาวที่เรียนอยู่ในโรงเรียน ได้ถูก ผอ. ขับรถเฉี่ยวชน แต่กลับไม่ยอมรับผิดชอบ ทางผู้ปกครองถามหาเงินค่าตรวจสมองเด็ก 500 บาท ก็ท้าให้ไปแจ้งความหรือฟ้องร้องเอาเอง ขณะที่ นางหนู (นามสมมุติ) อายุ 46 ปี หนึ่งในกลุ่มชาวบ้านระบุว่า เด็ก ๆ และเยาวชนในหมู่บ้านตอนนี้ไม่มีสถานที่ออกกำลังกายแล้ว เพราะ ผอ. ห้ามไม่ให้ใช้สนามฟุตบอล ทั้งที่หมู่บ้านมีสนามฟุตบอลเพียงแห่งเดียว แล้วจะให้เด็ก ๆ ไปเล่นกีฬากันที่ไหน ไม่สนใจเลยว่า “บุรีรัมย์” เป็นเมืองกีฬา แต่เขากลับทำในสิ่งตรงกันข้าม
เช่นเดียวกับ น.ส.น้อย (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี แม่ค้าในพื้นที่เปิดเผยว่า ตั้งแต่ ผอ. มาบริหารโรงเรียน ก็ไม่อนุญาตให้แม่ค้ามาขายของหน้าโรงเรียน ไม่เหมือน ผอ. ท่านอื่น ซึ่งไม่ว่ากี่ยุคสมัย ท่านก็อนุญาตให้แม่ค้ามาขายของรอบ ๆ โรงเรียนได้ แต่สำหรับพฤติกรรมของ ผอ. คนปัจจุบันนี้ ชาวบ้านต่างรับไม่ได้กับพฤติกรรม จึงอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยย้ายไปอยู่ที่อื่นด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากมีการยื่นหนังสือแล้ว ทุกฝ่ายต่างแยกย้ายกันเดินทางกลับ ปรากฏว่าเมื่อ ผอ. มาถึง ได้พูดกับเด็กนักเรียนว่า “…ชาวบ้าน, ตำรวจ, นักข่าว และนายอำเภอ มาทำเฮียอะไร…” ซึ่งเป็นการพูดด้วยอารมณ์ดุดันกับเด็ก ๆ สาเหตุจากไม่พอใจที่โดนร้องเรียน อย่างไรก็ตาม ทางผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อเท็จจริงแล้ว ปรากฏว่า ทาง ผอ.โรงเรียน เปิดเผยสั้นๆ ว่า ผอ.เขตไม่ให้สัมภาษณ์ หรือให้ข้อมูลใดๆ กับใคร เป็นหน้าที่ของ ผอ.เขต ที่จะมาตอบข้อซักถามได้.