สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ว่า ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ กล่าวในช่วงหนึ่งของแถลงประจำปีต่อที่ประชุมร่วมสองสภา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่ารัฐบาลยังคงขับเคลื่อนนโยบายสงครามยาเสพติด แต่สถานการณ์เข้าสู่ระดับใหม่แล้ว นั่นคือ การรักษา การบำบัด การให้ความรู้ และการบูรณาการ เพื่อควบคุมผลกระทบของยาเสพติดที่มีต่อประชาชน
#SONA2023: Marcos says anti-illegal drug campaign has ‘new face.’
— Rappler (@rapplerdotcom) July 24, 2023
Full story: https://t.co/KYI7hvg5z8 pic.twitter.com/kJp7yhSYo9
อย่างไรก็ตาม ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวว่า หน่วยงานรักษากฎหมายทุกแห่ง ยังคงดำเนินการอย่างเข้มข้นและเด็ดขาด เพื่อกวาดล้างการค้ายาเสพติดในประเทศ และการจัดการกับเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ซึ่งพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด
There are at least 342 drug-related killings during Marcos' first year in office, with 120 killed in anti-illegal drug operations, according to the Dahas Project of the UP Third World Studies Center. https://t.co/hWi9yueP1B
— Rappler (@rapplerdotcom) July 24, 2023
ทั้งนี้ นโยบายสงครามยาเสพติดของฟิลิปปินส์เกิดขึ้น เมื่อปี 2559 ในยุคของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ขณะที่ข้อมูลจากบริษัทวิจัย “ดาร์ฮาส” สนับสนุนโดยมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ ระบุว่า นับตั้งแต่มาร์กอส จูเนียร์ ขึ้นสู่อำนาจ เมื่อเดือน มิ.ย. 2565 มีผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการของภาครัฐเกี่ยวกับสงครามยาเสพติดแล้ว อย่างน้อย 342 ราย และตำรวจระดับสูงเกือบ 1,000 นาย ยื่นใบลาออก เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ฐานต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า มีการอนุมัติใบลาออกแล้วเท่าใด
ขณะที่มาร์กอส จูเนียร์ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลมะนิลาจะไม่ร่วมมือกับศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) อีกต่อไป หลังคณะตุลาการไอซีซีมีมติยกคำร้องอุทธรณ์ของรัฐบาลฟิลิปปินส์ ที่ขอให้ยุติการสืบสวนสอบสวนนโยบายสงครามยาเสพติด ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการมากกว่า 6,000 ราย โดยช่วงเวลาที่ไอซีซีต้องการสอบสวน คือระหว่างเดือน ก.ค. 2559-มี.ค. 2562 ก่อนรัฐบาลมะนิลาถอนตัวออกจากไอซีซี.
เครดิตภาพ : AFP