สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ว่า ประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ กล่าวในช่วงหนึ่งของแถลงประจำปีต่อที่ประชุมร่วมสองสภา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่ารัฐบาลยังคงขับเคลื่อนนโยบายสงครามยาเสพติด แต่สถานการณ์เข้าสู่ระดับใหม่แล้ว นั่นคือ การรักษา การบำบัด การให้ความรู้ และการบูรณาการ เพื่อควบคุมผลกระทบของยาเสพติดที่มีต่อประชาชน


อย่างไรก็ตาม ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวว่า หน่วยงานรักษากฎหมายทุกแห่ง ยังคงดำเนินการอย่างเข้มข้นและเด็ดขาด เพื่อกวาดล้างการค้ายาเสพติดในประเทศ และการจัดการกับเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ซึ่งพัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด


ทั้งนี้ นโยบายสงครามยาเสพติดของฟิลิปปินส์เกิดขึ้น เมื่อปี 2559 ในยุคของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ขณะที่ข้อมูลจากบริษัทวิจัย “ดาร์ฮาส” สนับสนุนโดยมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ ระบุว่า นับตั้งแต่มาร์กอส จูเนียร์ ขึ้นสู่อำนาจ เมื่อเดือน มิ.ย. 2565 มีผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการของภาครัฐเกี่ยวกับสงครามยาเสพติดแล้ว อย่างน้อย 342 ราย และตำรวจระดับสูงเกือบ 1,000 นาย ยื่นใบลาออก เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ฐานต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติด แต่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า มีการอนุมัติใบลาออกแล้วเท่าใด


ขณะที่มาร์กอส จูเนียร์ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลมะนิลาจะไม่ร่วมมือกับศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) อีกต่อไป หลังคณะตุลาการไอซีซีมีมติยกคำร้องอุทธรณ์ของรัฐบาลฟิลิปปินส์ ที่ขอให้ยุติการสืบสวนสอบสวนนโยบายสงครามยาเสพติด ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการมากกว่า 6,000 ราย โดยช่วงเวลาที่ไอซีซีต้องการสอบสวน คือระหว่างเดือน ก.ค. 2559-มี.ค. 2562 ก่อนรัฐบาลมะนิลาถอนตัวออกจากไอซีซี.

เครดิตภาพ : AFP