เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการขับเคลื่อนการทำงานเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน โดยไม่คำนึงถึงเงื่อนไขของเวลา ที่แม้ว่าจะเป็นวันหยุดราชการ แต่ความจำเป็นในการเข้ารับบริการภาครัฐของพี่น้องประชาชนนั้นไม่ได้มีวันหยุด ซึ่งในช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่อง กระทรวงมหาดไทยโดยกรมการปกครอง ได้มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศและปลัดกรุงเทพมหานคร มอบหมายให้สำนักทะเบียนอำเภอ สำนักทะเบียนท้องถิ่นเขต สำนักทะเบียนท้องถิ่น และจุดเคาน์เตอร์บริการอำเภอ..ยิ้ม ในเขตพื้นที่อำเภอ ได้เปิดให้บริการด้านงานทะเบียนราษฎรและทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชน ระหว่างวันที่ 28 ก.ค.-2 ส.ค. 66 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน

“ขอชื่นชมและขอขอบคุณพี่น้องข้าราชการ พนักงาน ตลอดจนเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ทั้งที่ทำการปกครองจังหวัดที่ทำการปกครองอำเภอ สำนักงานเขต และเทศบาล ที่ได้บูรณาการการทำงานเป็นทีม โดยมีทีมอำเภอ ทีมเขต ทีมท้องถิ่น บูรณาการทำงานร่วมกันด้วยใจ เป็นทีมมหาดไทยที่แข็งแกร่ง ร่วมกันทำงานด้วย Passion ที่มุ่งมั่นตั้งใจในการให้บริการอำนวยความสะดวกด้านทะเบียนราษฎรและทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อที่จะบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนแบบไม่มีวันหยุดราชการ” นายสุทธิพงษ์ กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า สำหรับข้อมูลภาพรวมทั่วประเทศของพี่น้องประชาชนผู้มารับบริการงานทะเบียนราษฎรและทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชน ระหว่างวันที่ 28-30 ก.ค. 66 ที่สำนักทะเบียนอำเภอและสำนักทะเบียนท้องถิ่นเขตและสำนักทะเบียนท้องถิ่น จำนวน 31,417 ราย อำเภอและเขตที่มีประชาชนมาใช้บริการมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.สำนักทะเบียนท้องถิ่นเขตประเวศ จำนวน 1,023 ราย 2.สำนักทะเบียน อ.เมืองนครราชสีมา จำนวน 744 ราย 3.สำนักทะเบียน อ.เมืองระนอง จำนวน 720 ราย 4.สำนักทะเบียน อ.เมืองพิษณุโลก จำนวน 468 ราย และ 5.สำนักทะเบียน อ.เมืองอุดรธานี จำนวน 453 ราย งานบริการที่ประชาชนมาใช้บริการมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.การขอทำบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 11,611 ราย 2.คำร้องทะเบียนราษฎร จำนวน 9,227 ราย 3.หนังสือรับรองการเกิดจำนวน 1,995 ราย 4.การเปลี่ยนแปลงหรือจำหน่ายรายการบ้าน 1,591 ราย และ 5.การรับแจ้งเกิด 1,082 ราย 

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของเคาน์เตอร์บริการอำเภอ..ยิ้ม มีประชาชนมาใช้บริการ จำนวน 5,386 ราย โดยเคาน์เตอร์อำเภอ..ยิ้ม ที่มีประชาชนมาใช้บริการมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ 1.เคาน์เตอร์บริการอำเภอ..ยิ้ม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอยุธยา อ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 260 ราย 2.เคาน์เตอร์บริการอำเภอ..ยิ้ม ศูนย์บริการร่วม จ.พิษณุโลก อ.เมืองพิษณุโลก จำนวน 253 ราย 3.เคาน์เตอร์บริการอำเภอ..ยิ้ม เซ็นทรัล มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จำนวน 240 ราย 4.เคาน์เตอร์บริการอำเภอ..ยิ้ม ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เวสต์เกต บางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี จำนวน 190 ราย และ 5.เคาน์เตอร์บริการอำเภอ..ยิ้ม ศูนย์การค้า Passione Shopping Destination อ.เมืองระยอง จำนวน 168 ราย โดยงานบริการที่ประชาชนมาใช้บริการมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.การขอทำบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 4,720 ราย 2.คัดรับรองทะเบียนราษฎร จำนวน 322 ราย 3.ย้ายทะเบียนบ้านปลายทางจำนวน 63 ราย 4.แจ้งเกิด จำนวน 53 ราย และ 5.แจ้งย้ายเข้าทะเบียนบ้าน จำนวน 50 ราย

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ได้มีการเปิดบริการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพื่อให้บริการและคำปรึกษาแก่พี่น้องประชาชน ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. และเปิดศูนย์ติดต่อร้องเรียนร้องทุกข์ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง ยังได้พัฒนาแอปพลิเคชัน Thai Digital Identity (ThaID) หรือ ไทยดี เพื่อเป็นระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ซึ่งประชาชนสามารถยืนยันตัวตนทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องเดินทางไปที่หน่วยงาน โดยมีงานบริการที่สามารถใช้งานได้ เช่น การยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชน หรือการดูสำเนาทะเบียนบ้านฉบับดิจิทัลผ่านทางแอปพลิเคชันและสามารถแสดงตนทั้งในสนามบินต่างๆ หน่วยงานภาครัฐ และภาคส่วนต่างๆ ในสังคม แทนการใช้บัตรประชาชนและเอกสารทะเบียนบ้านได้ สามารถดาวน์โหลดได้ง่ายทั้ง ระบบ iOS และ Android

“กระทรวงมหาดไทยยินดีและมุ่งมั่นให้การบริการด้านทะเบียนราษฎรและทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชน ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถอำนวยความสะดวกและตอบสนองความต้องการของประชาชนในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง จึงขอเชิญชวนประชาชนสามารถติดต่อขอรับบริการ ระหว่างวันที่ 28 ก.ค.-2 ส.ค. 66 เวลา 08.30-16.30 น. ที่สำนักทะเบียนอำเภอ สำนักทะเบียนท้องถิ่นเขต สำนักทะเบียนท้องถิ่น และจุดเคาน์เตอร์บริการอำเภอ..ยิ้ม ในเขตพื้นที่ทั่วประเทศ และขอให้ทุกท่านที่กำลังจะเดินทางกลับจากการเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยวทัศนาจรร่วมกับครอบครัว ได้ใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะ การใช้รถใช้ถนน ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการติดต่อสอบถามข้อมูลการให้บริการของทางราชการในทุกจังหวัด ติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 หรือหากต้องการขอรับความช่วยเหลือจากสาธารณภัย ติดต่อสายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายสุทธิพงษ์ กล่าว.