เมื่อเวลา 14.13 น. วันที่ 2 ส.ค. ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงทิศทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 4 ส.ค. นี้ ว่า ต้องดูก่อนว่าการนำเสนอเป็นอย่างไร ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใดๆ ส่วนกรณีที่ขณะนี้มีชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จากพรรคเพื่อไทย ที่จะถูกเสนอชื่อในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 4 ส.ค. นี้ แต่ถูกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตั้งข้อสังเกต โดยเฉพาะเรื่องมาตรา 112 นั้น จากตนที่ติดตามข่าว นายเศรษฐาก็พร้อมจะชี้แจงในประเด็นนี้ คนที่เป็นบุคคลสาธารณะก็ต้องพร้อมชี้แจง เชื่อว่าจะทำความเข้าใจกับประชาชนได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยก็ยังเป็นพรรคอันดับ 3 เหมือนเดิม ก็ปล่อยให้เป็นมารยาททางการเมือง ซึ่งขณะนี้พรรคที่ 2 กำลังจัดตั้งรัฐบาลอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวจะปล่อยให้การจัดตั้งรัฐบาลมาถึงพรรคอันดับ 3 จากนั้นจะเสนอชื่อนายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นไปได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยอะไรเลย เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีการส่งสัญญาณมาให้พรรคภูมิใจไทยบ้างหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มีส่งสัญญาณอะไรมา มีเพียงการพูดคุยกันเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้แจ้งข้อจำกัด ว่าพรรคภูมิใจไทย จะไม่แตะมาตรา 112 ไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย และไม่สามารถร่วมงานกับรัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกลได้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยยังอยู่ในกรอบนี้อยู่
เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ต.ศิธา ทิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่าพรรคภูมิใจไทย โทรฯ สายตรงไปถึงพรรคก้าวไกล เพื่อขอร่วมรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า เขารู้ได้อย่างไร ตนขอไปหาก่อนว่าใครโทรฯ แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ตน และเลขาธิการพรรค ซึ่งถ้าไม่ใช่ตน ถ้าไม่ใช่เลขาฯ พรรค และไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค ก็แสดงว่าไม่ได้มีการโทรฯ
“การให้ข่าวแบบนี้ต้องระมัดระวังนิดหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายกับพรรคภูมิใจไทย ผมเข้าใจดีว่าอยากเป็นข่าว แต่ก็ควรให้ข่าวไม่ให้พาดพิงคนอื่นๆ โดยที่ไม่ได้มีการตรวจเช็กข้อมูลก่อน แต่อย่างว่าตนกับ น.ต.ศิธา ก็พี่น้องกัน เจอกันตีข้อศอกกันก็หายแล้ว วันนี้หากหนักนิดเบาหน่อย ก็อภัยให้กัน” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยเชื่อสูตรที่พรรคก้าวไกล จะโหวตให้พรรคเพื่อไทยแล้วจะยอมไปเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เห็นสมาชิกพรรคก้าวไกลบอกว่าไม่มีสูตรนี้ จริงๆ ถ้าเป็นฝ่ายค้านก็ต้องเป็นฝ่ายค้านตลอด ทำหน้าที่ตรวจสอบ ยกเว้นถ้าทำแล้วประชาชน และประเทศชาติได้ประโยชน์ มาสนับสนุนรัฐบาล ก็เป็นเรื่องที่น่าชมเชย
เมื่อถามว่า ทาง สว. มีความเป็นห่วงว่า แม้พรรคก้าวไกลจะยอมเป็นฝ่ายค้านในตอนโหวตนายกฯ แต่เวลาจัดตั้งรัฐบาลกังวลว่าพรรคเพื่อไทยจะนำพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาลด้วยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าคนที่จะไปร่วมรัฐบาลต้องแถลงให้ชัดเจน อันนี้สำคัญมาก ไม่ใช่ปล่อยให้โหวตกันไปก่อน ซึ่งทำแบบนั้นไม่ได้ ควรต้องทำให้ชัดเจน ประชาชนต้องมีส่วนรับรู้รับทราบ ลักไก่ตีกินไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ทุกอย่างจะต้องมีความชัดเจน ตนถึงบอกว่าต้องไม่ใช้คำว่าดีลลับ ซึ่งมีไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนมีส่วนเกี่ยวข้อง
เมื่อถามย้ำว่า พรรคเพื่อไทยควรจะประกาศให้ชัดเจนว่าพรรคใดร่วมรัฐบาลบ้างใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องพูดให้ชัดเจน ตรงนี้เป็นสิ่งจำเป็นว่าใครร่วมรัฐบาล ใครเป็นฝ่ายค้าน เมื่อร่วมแล้วจะต้องไม่มีนโยบายอะไรบ้าง เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเข้าใจกัน ตนคุยกับหัวหน้าพรรคหลายๆ พรรค หลายๆ ท่านก็ยืนยันในหลักการนี้
เมื่อถามว่า ถ้ายังไม่มีความชัดเจนในวันที่ 4 ส.ค. นี้ พรรคภูมิใจไทยก็โหวตลำบากใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างต้องชัดเจน ก่อนจะอึมครึมไปอย่างนี้ไม่ได้ ซึ่งประชาชนไม่ต้องกังวล ตนคิดว่าจะมีการแถลงความชัดเจน เพราะหากไม่แถลงจะโหวตนายกฯ อย่างไร เราก็ไม่รู้จะอยู่ตรงนี้

ด้านนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวยืนยันว่า ตนไม่เคยโทรหาพรรคก้าวไกล หลังจบการเลือกตั้ง เพื่อเข้าร่วมรัฐบาล ตามที่ น.ต.ศิธา ออกมาให้ข่าว ทั้งหมดเป็นไปตามที่โฆษกพรรคภูมิใจไทยชี้แจงแล้ว เรามีมารยาททางการเมืองพอ พร้อมยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากพรรคเพื่อไทยมาเพิ่มเติม หลังจากที่เคยพูดคุยกันไปก่อนหน้านี้.