เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายเอ (นามสมมุติ) ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อาคม แก้วหน่อ พนักงานสอบสวน สภ.เชียงคำ จ.พะเยา ว่าตนเองโดนลูกชายร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังในพื้นที่ อ.เชียงคำ ยกพวกมารุมทำร้ายร่างกาย ต้องการให้ดำเนินคดีอีกฝ่ายเด็ดขาด ทั้งนี้สืบเนื่องจาก ช่วงเวลา 03.00 น. นายเอ กับพวกได้เข้าไปทานก๋วยเตี๋ยวหลังจากดื่มสังสรรค์เสร็จแล้ว ระหว่างนั้น น.ส.บี (นามสมมุติ) สาวทอมได้มีปากเสียงกับทางเจ้าของร้าน เกี่ยวกับพริกป่นที่นำไปเติมในก๋วยเตี๋ยวในปริมาณที่มาก และเมื่อทานน้ำซุปไม่หมด ทางเจ้าของร้านก็ต่อว่าเติมเยอะแล้วก็ทานไม่หมด อีกฝ่ายจึงโวยวายไปว่า “…ให้เลียถ้วยด้วยไหม…”
นอกจากนี้ยังได้นำพริกป่นที่เหลือกว่าครึ่งแก้ว เทใส่ชามก๋วยเตี๋ยวจนหมด รวมทั้งน้ำตาลในแก้วเครื่องปรุงก็ถูกเทหมดเช่นเดียวกัน จากนั้น น.ส.บี ก็เอาน้ำที่ดื่มแล้วมาเทใส่ชามรวมกัน ก่อนจะคนไปมา ลักษณะเป็นการเย้ยฝ่ายร้านก๋วยเตี๋ยว หลังจากนั้นไม่นานทางเจ้าของร้านมาเห็น ได้สอบถามว่าใครเป็นคนทำ แต่ตนได้ยินเสียงว่า “…รู้ว่าใครทำแต่ไม่บอกเพราะคำตอบอยู่ในใจ…” ทางเจ้าของร้านไม่พอใจ เข้ามาถามตนและใช้ถ้อยคำไม่ดีประมาณว่า “…มึงไม่ได้สั่งจะเข้ามาหาพ่อมึงเหรอ…” ซึ่งตนพยายามลุกไปไหวขอโทษ แต่ทางลูกชายเจ้าของร้านเข้าใจว่าจะเข้ามาทำร้ายแม่ของเขา จึงบุกเข้ามาทำร้ายพร้อมพวก ตามคลิปที่ปรากฏออกไป
ขณะที่ นายดำ (นามสมมุติ) ลูกชายเจ้าของร้านเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ร้านของตนเปิดตามปกติ เวลาประมาณตี 3 กลุ่มนักเที่ยวซึ่งเป็นวัยรุ่น หญิง 3 ชาย 2 ทอม 1 อยู่สภาพมึนเมาหนัก เข้ามาในร้านเพื่อที่จะสั่งก๋วยเตี๋ยวของร้านตนเองไปกิน โดยมีอยู่ 1 คน ไม่ได้เข้ามากินแต่อย่างใด หลังจากฝ่ายวัยรุ่นกินก๋วยเตี๋ยวหมดแล้ว ปรากฏว่า แม่ของตนเดินไปคุยเรื่องพริกป่นว่าเทเยอะแล้วกินไม่หมด ตรงนี้ตนเห็นว่าแต่ละคนปรุงรสไม่เหมือนกันถือเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่รับไม่ได้ก็คือ การเอาเครื่องปรุงไปเทใส่ชามแล้วคนเล่น เหมือนต้องการกลั่นแกล้งทางร้าน
อีกทั้งเมื่อถามว่าใครทำก็ยังยั่วยุให้โมโหว่า “…เครื่องปรุงเหล่านี้มันจะสักกี่บาท…” และ “…รู้แต่ไม่บอก…” ทำให้ตนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ปรี่เข้าไปใส่คู่กรณีทันที เรื่องที่เกิดขึ้น ตนต้องขอโทษทุกคนสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่อยากให้ใครมาตีตราว่าร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ใช้กำลังรังแกลูกค้า แต่อยากให้เข้าใจว่า คำพูดและการกระทำที่เป็นการดูถูกยั่วยุเวลานั้น ตนทนไม่ไหวจริง ๆ
ขณะที่ นางสวย (นามสมมุติ) แม่ของ นายเอ กล่าวว่า หลังจากที่ลูกชายโดนทำร้าย วันรุ่งขึ้นได้พาลูกไปแจ้งความเอาผิดคู่กรณีที่เป็นลูกชายเจ้าของร้าน โดยตำรวจเรียกทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยเพื่อเจรจาเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากลูกชายไม่ได้เป็นฝ่ายผิด แต่กลับถูกทำร้าย จึงเรียกค่าทำขวัญไป 2 หมื่นบาท ขณะที่คู่กรณีให้เพียง 2 พันบาท ทำให้ยังตกลงกันไม่ได้ ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขณะที่สาวทอมต้นเรื่อง หลังเกิดเหตุก็ไม่เคยมาเยี่ยมแต่อย่างใด ทั้งที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันก็ตาม.
