เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 ส.ค. ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของพรรค รทสช. ภายหลังพรรคเพื่อไทย แถลงฉีกเอ็มโอยูและประกาศไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล ว่า จุดยืนยังเหมือนเดิม แต่ก็ต้องรอดูเป็นสเต็ป ซึ่งขั้นตอนแรกคือการโหวตนายกฯ เราประกาศชัดเจน หากมีพรรคก้าวไกลและการแก้ไขมาตรา 112 เราไม่สามารถโหวตให้ได้ หากหลุดจากเงื่อนไขตรงนี้ ก็ต้องรอดูสเต็ปต่อไปว่า จะสามารถไปกันได้หรือไม่ ส่วนที่จะมีการแถลงจัดตั้งรัฐบาลในวันที่ 3 ส.ค. นั้น ตนยังไม่ทราบ และทางพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ติดต่อมา ทั้งนี้ ตนยืนยันว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่ามองคุณสมบัตินายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย อย่างไรบ้าง นายเอกนัฏ กล่าวว่า การโหวตนายกฯ ทั้ง 2 ครั้ง ติดมาตรา 112 โดยครั้งที่ 3 ต้องประกาศให้ชัด ต้องมีการอธิบายและหารือกันในรัฐสภา จากฝั่ง สว. และ สส. คิดว่าประเด็นมาตรา 112 ต้องมีการชี้แจงก่อนที่จะโหวตนายกฯ ซึ่งถือเป็นข้อแรก และหากประกาศชัดแล้วว่าไม่เดินหน้าแก้ไข รวมถึงไม่เป็นวาระในรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล ก็จะเริ่มสามารถพูดคุยกันได้ แต่ส่วนจะร่วมหรือไม่ร่วมนั้น จะมีการพูดคุยกันก่อน เพราะอาจจะมีหลายเรื่องก็ได้
เมื่อถามว่ายังติดปัญหา 2 ลุง คือ พรรค รทสช.และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อยู่ จะแก้ปัญหาอย่างไร นายเอกนัฏ กล่าวว่า คงไม่ต้องแก้ปัญหา เพราะในส่วนของพรรค รทสช. เราไม่ได้ติดใจที่จะเป็นฝ่ายค้าน หรือแม้แต่เป็นรัฐบาล และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ได้ลาออกไปแล้ว อยากให้พูดถึงอนาคตดีกว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด หากจมอยู่กับอดีต ก็ไม่มีอนาคต.