เมื่อวันที่ 5 ส.ค. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยกรณีปรากฎข่าวนักเรียน ม.1 มาทัศนศึกษา ก่อนคลอดลูกทิ้งไว้ในปั๊มน้ำมัน ปตท. ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนเอเชียฝั่งขาขึ้น ท้องที่ หมู่ 8 ต.โคกสัก อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ว่า เมื่อทราบข่าวได้ให้ข้อมูลเเก่ น.ส.นารี ตันฑเสถียร อัยการสูงสุด เพื่อทราบเรื่อง ทางอัยการสูงสุดจึงได้มีคำสั่งให้ประสานงานไปยัง นายศิริศักดิ์ พจนสิทธิ์ อธิบดีอัยการภาค 9 เพื่อให้ศูนย์คุ้มครองเด็ก สำนักงานอัยการภาค 9 ร่วมกับพนักงานอัยการในจังหวัดพัทลุงและนราธิวาส ร่วมกันใช้กฎหมายคุ้มครองเด็ก เข้าช่วยเหลือเด็กและดำเนินการตามมาตรฐานในการคุ้มครองเด็กตามกฎหมาย ซึ่งหากเด็กอายุยังไม่ถึง 15 ปี ต้องมีประเด็น ผู้ใดกระทำผิดกฎหมายต่อเด็ก อัยการภาค 9 ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

กฎหมายอาญา มาตรา 277 ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 บาท ถึง 400,000 บาท กฎหมายอาญามาตรา 277 จึงเป็นกฎหมายที่บอกให้ทุกคน ต้องทราบว่ากฎหมายคุ้มครองความบริสุทธิ์ของเด็กผู้หญิงจนอายุ 15 ปี

นายโกศลวัฒน์ เปิดเผยต่อว่า ต่อมาในช่วงบ่ายวันนี้ หลังจาก น.ส.นารี อัยการสูงสุด สั่งการอัยการในพื้นที่ภาค 9 ลงพื้นที่คุ้มครองช่วยเหลือเด็ก ม.1 คลอดลูกในปั๊มน้ำมัน พัทลุง นายมนต์ชัย เพ็งคล้าย พนักงานอัยการสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯ จังหวัดพัทลุง พร้อมหัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพัทลุง และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพัทลุง ได้เดินทางไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลพัทลุง ให้คำแนะนำ ปรึกษา แก่เด็กที่คลอดบุตร ซึ่งตอนนี้เด็กที่คลอดบุตรพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพัทลุง มีอาการตกเลือด อยู่ระหว่างรอดูอาการ แต่ไม่น่าเป็นห่วง ส่วนเด็กทารกที่คลอดยังไม่สามารถเข้าเยี่ยมได้