กรณีโลกออนไลน์ มีการแชร์เรื่องราวของ “ป้าต้อย” หรือ “นายสมชาย ยิ่งสุ่น” อายุ 64 ปี ซึ่งมีลักษณะกระตุ้งกระติ้ง แต่งตัวในแต่ละวันดูขำขัน อารมณ์ดี ประแป้งขาวเต็มหน้า บางวันก็สวมมงกุฎชฎา เข็นรถเข็นขายขนมใส่ไส้ จนเป็นที่ฮือฮารู้จักกันดีของชาวนนทบุรี เรียกติดปากกันว่า “ป้าต้อย ขนมใส่ไส้” มีลูกค้าผ่านไปมาแถวท่าน้ำหอนาฬิกาเมืองนนทบุรี ต่างพากันอุดหนุน ช่วยกันซื้อขนมใส่ไส้ป้าต้อยด้วยความสงสาร ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวป้าแกสติสตังไม่ค่อยสมประกอบ กระทั่งเกิดเรื่องที่น่าโศรกเศร้า เมื่อ “ป้าต้อย” แม่ค้าคนดังขายขนมใส่ไส้ ซุป’ตาร์คนดังท่าน้ำนนท์ ที่คุ้นหน้าคนนนท์ โดนรถชนเสียชีวิตบริเวณ ถนนเลี่ยงเมือง ฝั่งตรงช้ามร้านลงขัน อ.เมือง จ.นนทบุรี ช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 4 สิงหาคม 66 ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
เปิดคลิปสุดท้าย “ป้าต้อย”ซ้อมรำถวายวันเกิดหลวงพ่อ “บิ๊กต่อ”รับเป็นเจ้าภาพ1คืน

เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่วัดนครอินทร์ ศาลา 2 ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี นายทักษิณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ขี่รถ จยย. ชน ป้าต้อย เสียชีวิต พร้อมน้องสาว ได้เดินทางมาจุดธูปขอขมาและขออโหสิกรรมกับป้าต้อย พร้อมขอขมา นางสุทิศา ยุ่นสุ่น อายุ 52 ปี น้องสาวป้าต้อย ซึ่งทางด้านนางสุทิศา ก็ให้อภัย ซึ่งก็เข้าใจว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น
นายทักษิณ เล่าว่า เหตุการณ์วันนั้นตนกำลังไปรับน้องกลับจากที่ทำงาน เป็นปกติทุกวัน วันเกิดเหตุตอนขี่กลับฝั่งตรงข้ามตลาดนกฮูก วิ่งเส้นเรียบเมืองนนท์ ก่อนถึงที่เกิดเหตุ เป็นทางโค้งและมืดมาก ก่อนเลี้ยวโค้งไม่เห็นว่ามีรถย้อนศรมาหรือไม่ และไม่เห็นป้าต้อยเลย ซึ่งไม่ได้ขี่มาเร็ว เพราะมีน้องสาวซ้อนท้ายมาด้วย วิ่งประมาณ 40-50 กม.ต่อชั่วโมง แต่พอเลี้ยวหลุดโค้งออกมาถึง เห็นป้าต้อยอยู่ข้างหน้าของรถระยะห่างประมาณ 4-5 เมตร ตนพยายามเบรกเต็มที่แล้วแต่ไม่ทัน เป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งตนก็ได้รับบาดเจ็บที่แขน เอ็นข้อมือขวาฉีก ต้องใส่เฝือกตลอด ส่วนแขนข้างซ้ายเป็นแผล ตั้งแต่หัวไหล่ แขน เข่า

นายทักษิณ ระหว่างที่ตนรักษาตัวที่โรงพยาบาล พยายามติดต่อคู่กรณีตลอดตั้งแต่ไปถึงโรงพยาบาล และให้น้องไปลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก และโทรฯ คุยกับญาติป้าต้อยตลอดว่าต้องการให้ช่วยอะไรไหม อยากได้อะไรไหม ให้ช่วยเหลืออะไรไหม ให้แจ้งมาได้เลย ตนสะดวกทุกอย่าง ซึ่งตอนที่เกิดเหตุไม่รู้ว่าเป็นป้าต้อยคนดัง เพราะตนก็เจ็บ ตอนนั้นมีรถกู้ภัยมา 2 คัน นำป้าต้อยส่ง รพ.พระนั่งเกล้า ส่วนของตนส่งโรงพยาบาลที่ตนมีประกันสังคมคือโรงพยาบาลวิภาราม ซึ่งตนได้โทรฯ คุยกับญาติเรียบร้อยแล้ว
นายทักษิณ กล่าวว่า วันนี้จึงมาขอขมา มาขอให้ป้าต้อยไปเป็นนางฟ้าบนสรวงสวรรค์ มีความสุขมากๆ เพราะว่าตนเสียใจมากกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เป็นตราบาปในชีวิตตลอดไป เพราะตนรู้จักกับป้าต้อยมาตั้งแต่เด็ก เพราะเรียนที่โรงเรียนวัดทินกร ตั้งแต่เด็กก็เห็นเข็นรถขายขนมใส่ไส้ตั้งแต่เด็กยันโต เวลามีงานบวชญาติทุกครั้ง ป้าต้อยจะไปทุกครั้ง ที่วัดทินกร ป้าต้อยจะไปแห่นาคให้ตลอด และพอเกิดเหตุนี้ขึ้น เป็นคนใกล้ตัว ตนรู้สึกเสียใจมากๆ ซึ่งตนก็อยากฝากบอกว่า ตนไม่ได้หนีไปไหน แค่อยู่ในระหว่างรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล อยากจะกราบขอโทษญาติป้าต้อย และคนที่รักป้าต้อยทุกคน เพราะตนก็เป็นคนที่รักป้าต้อยเหมือนกัน และป้าต้อยก็รู้จักกับญาติตน พอได้ออกจากโรงพยาบาล ตนก็รีบมาหาป้าต้อยทันที

นางสุทิศา น้องสาวต่างมารดาของป้าต้อย เล่าว่า ไม่ได้ติดใจอะไรกับคู่กรณี เพราะเขาเด็ก อนาคตของเขายังอีกไกล คิดไว้แต่แรกแล้วว่ามันคืออุบัติเหตุ ไม่คิดจะเอาอะไรจากเขา ไปถามเขาได้ ตนไม่เคยไปเรียกร้องเอาอะไรกับเขาเลย เมื่อครู่ก็บอกเขาที่อยากให้เขารับผิดชอบก็คือให้มาขมาศพ ขอแค่นี้เพราะว่ามันดีกับตัวเขา ไม่ได้ดีกับตัวใคร เพราะเขาเป็นคนชน ตนต้องการแค่นี้ และที่วันแรกที่อยากเจอเขา ก็ไม่ได้อะไร แค่ต้องการเอกสารต่างๆ มาทำให้พี่ต้อยแค่นั้น ไม่เคยเรียกร้องอะไร ตนไม่เรียกร้องอะไรเขา เขามาก็ไม่ได้พูดอะไรมาก บอกแค่ว่า “ผมเสียใจด้วยนะครับ ป้าต้อยแกดีกับผม ผมรักและเคารพ เพราะว่าที่บ้านผมบวช ป้าต้อยก็ไป” ตนก็อโหสิกรรมให้ไม่ติดใจ สมมุติถ้าเป็นตัวพี่ต้อยเอง พี่ต้อยก็คงอโหสิกรรมให้เหมือนกัน
