เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่รัฐสภา นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ กล่าวถึงท่าทีหลังพรรคเพื่อไทย (พท.) ทาบทามร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า ได้มีการตอบรับเป็นที่เรียบร้อย โดยพรรคไม่ได้มีเงื่อนไข ยินดีเข้าร่วมเพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้เร็วที่สุด หากการตั้งรัฐบาลต้องมีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มาร่วมนั้น มองว่าพรรค พท. ได้ละลายความขัดแย้ง นำศัตรูมาเป็นมิตร เพื่อให้สามารถตั้งรัฐบาลได้สำเร็จด้วยดี เชื่อว่าขณะนี้น่าจะมีเสียงสนับสนุนเพียงพอ
เมื่อถามว่ากรณีนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรค พท. มีปัญหาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับภาษีที่ดิน 500 ล้านบาท นายเชาวฤทธิ์ กล่าวว่า ไม่กังวล คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของการเสียภาษี กรมสรรพากรมีเรตในการเสียภาษีไว้อยู่แล้ว และคิดว่านายเศรษฐาก็ไม่กังวลอะไร ตนก็ไม่ติดใจเรื่องนี้ ส่วนเรื่องคุณสมบัติเชื่อว่ายังครบถ้วนอยู่
เมื่อถามว่า พรรค พท. ได้พูดถึงเสียงสนับสนุนว่ามีเพียงพอแล้วหรือไม่ นายเชาวฤทธิ์ กล่าวว่า ก็ยังหวังเสียงจาก สว. ซึ่งพรรค พท. ก็ประสานอยู่ คงจะได้เสียงพอในครั้งนี้ ส่วนพรรค พท. จะเชิญใครมาร่วมอีกหรือไม่นั้น เรื่องนี้ตนไม่ได้ถาม เป็นสิทธิของพรรค พท. ที่จะเชิญพรรคใดมาร่วมรัฐบาลให้สำเร็จ
เมื่อถามว่า พรรค พท. มีความพยายามแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ จะกลายเป็นชนวนความขัดแย้งในเวลานี้หรือไม่ นายเชาวฤทธิ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าการแก้ไขต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปีขึ้นไป สว. จะหมดวาระในเดือน พ.ค. 67 จึงไม่น่าจะกังวล เพราะกว่าจะมีรัฐธรรมนูญประกาศ ก็ใช้เวลา4-5 ปีสำหรับ สส. ชุดที่ 26
เมื่อถามว่าท่าทีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ควรยกมือโหวตให้นายกฯ จากพรรค พท. หรือไม่นั้น นายเชาวฤทธิ์ กล่าวว่า พรรค ก.ก. ก็มีการสอบถามความเห็นคนในพรรค ส่วนจะมีมติสนับสนุนพรรค พท. หรือไม่ ตนมองว่าเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. เชื่อว่าหากตั้งรัฐบาลได้ รวมเสียงได้ประมาณ 260-270 เสียง ก็ไม่เป็นเสียงปริ่มน้ำ รัฐบาลชุดที่แล้วรวมเสียงได้เพียง 255-256 เสียง ยังอยู่ได้ครบ 4 ปี อยู่ที่ สส.พรรคร่วมรัฐบาลขัดแย้งกันหรือไม่.