เมื่อวันที่ 13 .00 น. วันที่ 12 ก.ย. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม  พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ จ.สมุทรปราการ เพื่อตรวจเยี่ยมสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี และตรวจความพร้อมแผนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง ที่สะพานยกระดับสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลหารพิจิตร โดยมีส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ อาทิ นายกรุง ศรีวิไล และน.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ และผู้บริหารท้องถิ่นมารอให้การต้อนรับ

โดยเมื่อนายกฯ เดินทางมาถึงได้เรียกหา น.ส.นันทิดา แก้วบัวสาย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ ที่มารอให้การต้อนรับว่า “ไปไหน จะหลบข้างหลังทำไม” และกำชับให้ดูแลประชาชนหลังเกิดอุทกภัยในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ โดยต้องเร่งสร้างองค์ความรู้ให้กับประชาชนในพื้นที่ พร้อมทักทายทีม อบจ.สมุทรปราการ ก่อนแซวประธานสภา ว่า “ดูอาวุโส” ขณะที่ทีมสภา อบจ.บอกว่า “ขอเป็นกำลังใจให้นายกฯ” ขณะเดียวกันนายกฯ ได้ย้ำกับ ส.ส.ว่า เราเป็น ส.ส.ไม่ใช่ว่าจะให้เฉพาะความต้องการเขาอย่างเดียว จะต้องให้หลักคิดกับเขาด้วย ว่า หากต้องการอย่างนี้ จะต้องทำอย่างไร ส่วนโครงการต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่ต้องเสนอเข้ามาในรัฐบาล

ทั้งนี้ ระหว่างตรวจเยี่ยมสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยระหว่างการตรวจเยี่ยมนายกฯ ได้ทักทายให้กำลังใจประชาชนที่มารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 พร้อมให้กำลังใจคณะแพทย์ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยประชาชนและเจ้าหน้าที่กล่าวให้กำลังใจว่า “สู้ๆ” โดยนายกฯ กล่าวขอบคุณ พร้อมบอกว่าวันนี้ อารมณ์ดีมากที่ได้มาพบปะกับประชาชนขอให้สู้ปัญหาไปพร้อมกัน สู้เพื่อทุกคน และเพื่อประเทศชาติ เชื่อว่าพลังความร่วมมือของทุกคนจะทำให้ประเทศพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น พร้อมฝากให้ ส.ส.และข้าราชการ อบจ. ทำงานใกล้ชิดกับประชาชนมากขึ้น อย่าทิ้งประชาชนให้แก้ไขปัญหากันเอง ตนเองไม่สามารถทำให้ทุกคนพอใจ แต่ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด เพื่อทุกคนและเพื่อประเทศชาติ และแม้จะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบเรียบร้อยแล้ว แต่ยังคงต้องระมัดระวังตนเอง เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการติดเชื้อโควิด-19 

จากนั้นนายกฯ เข้าร่วมประชุมกับผู้บริหาร เพื่อรับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการและความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการต่างๆของสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ ฯ ทั้งนี้ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ฯ เป็นฐานทัพการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีการระบาดหนักในช่วงนี้ ซึ่งบทเรียนจากการรับมือทางสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ฯ จึงได้ตั้งโครงการศูนย์พัฒนาทักษะทางเทคนิคด้วยสถานการณ์จำลอง เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะรับมือโรคอุบัติใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยการบริหารได้รับเงินบริจาคจากภาครัฐและประชาชนที่ร่วมบริจาคภายใต้มูลนิธิรามาธิบดี โดยเป้าหมายให้เป็นโรงพยาบาลในภาคตะวันออกที่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบรองรับผู้ป่วยนอกรองรับผู้ป่วยนอกได้ 1 ล้านคนต่อปี ผู้ป่วยใน 1,1000 รายต่อปี ซึ่งมีการรวบรวมแพทย์ในหลายสาขามาอยู่ในจุดนี้ เพื่อให้ครอบคลุมการรักษาพยาบาลโรคร้ายแรง

ต่อมานายกฯ ประชุมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ และปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่ง จ.สมุทรปราการ เกิดฝนตกหนักติดต่อกันประกอบกับน้ำทะเลหนุนบางช่วง ทำให้การระบายน้ำค่อนข้างช้า เกิดน้ำท่วมขัง 4 อำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ และอำเภอบางเสาธง โดยหน่วยงานราชการในจังหวัดพร้อมกองทัพได้เร่งดำเนินการะบายน้ำเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมขังแล้ว  ทั้งนี้ ในปี 2564 จ.สมุทรปราการ ได้ดำเนินการตามแผนงานและโครงการภายใต้แผนงานบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ จำนวน 7 โครงการ งบประมาณ 83.5846 ล้านบาท ดำเนินการโดย 2 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมชลประทาน และองค์การจัดการน้ำเสีย เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมมีพื้นที่รับประโยชน์ จำนวน 2,500 ไร่ และประชาชนได้รับประโยชน์ 8,716 ครัวเรือน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีฝากให้ส่วนราชการในท้องที่ รวมถึงท้องถิ่น และ ส.ส.ทำงานร่วมกัน เมื่อเกิดน้ำท่วมให้ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เตรียมแผนบริหารจัดการโดยเฉพาะในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจ ในบริเวณจุดเสี่ยงที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก จะต้องแก้ไขปัญหาระบายน้ำทันที หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นจะต้องมีการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนรับรู้สถานการณ์อยู่ตลอดเวลา เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์และเตรียมตัวอพยพ จะต้องมีการจัดหาสถานที่พักชั่วคราวให้ประชาชนอย่างเหมาะสมโดยเฉพาะช่วงนี้ที่ประสบปัญหาการระบาดโควิด-19 ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญที่สุด

จากนั้นเวลา 15.00 น. นายกฯ เดินทางถึงสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ เพื่อตรวจความพร้อมแผนป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง  ที่สะพานยกระดับสถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงการลงพื้นที่ครั้งนี้ของ พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นการลงพื้นที่ในวันหยุดราชการครั้งแรก ภายหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอก 3 และมีการผ่อนคลายมาตรการของ ศบค. เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา